ดิ แอสเพน ทรี ร่วมกับ Baycrest (เบย์เครสต์) จากประเทศแคนาดา

ดิ แอสเพน ทรี ร่วมกับ Baycrest (เบย์เครสต์) จากประเทศแคนาดา

ดิ แอสเพน ทรี ผู้ดำเนินธรุกิจด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร ทั้งบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและที่พักอาศัย และ Baycrest Health Sciences ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุและเป็นศูนย์วิจัยด้านการแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากประเทศแคนาดา ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันหรือ MOU ในการพัฒนาด้านการดูแลและสร้างสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย   ณ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนหรือ RISC ชั้น 4 อาคารแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด


การลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ ได้รับการลงนามโดย มิสเฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการ บริษัท   ดิแอสเพน ทรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ ดร. วิลเลี่ยม อี ไรช์แมน ประธานผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Baycrest ในฐานะตัวแทนจาก Baycrest Global Solutions Inc. ซึ่งเป็นบริษัทสาขาของ เบย์เครสต์ Baycrest ในต่างประเทศ

มิสเฮ จูน พาร์ค กล่าวว่าความร่วมมือในครั้งนี้เกิดจากพื้นฐานความห่วงใยที่มีต่อความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน โดยความห่วงใยนี้มาจากแนวคิด ‘For all well – being’ ซึ่งเป็นหลักการทำงานของบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของดิ แอสเพน ทรี

ความร่วมมือครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวมความเป็นเลิศด้านสุขภาพ ของ Baycrest Healthcare (เบย์เครสต์ เฮลท์แคร์) กับ ดิ แอสเพน ทรี ผู้เชี่ยวชาญด้านที่อยู่อาศัย และ บริการ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในโลกให้กับผู้สูงอายุ

“Baycrest และ ดิ แอสเพน ทรี จะร่วมกันทุ่มเทหาวิธีการดูแลผู้สูงอายุตลอดช่วงอายุ (Lifetime care) ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนสร้างความเจริญในผู้สูงอายุผ่านการพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืน ด้านการดูแล การให้บริการ และการออกแบบที่อยู่อาศัย รวมถึงการจัดการอย่างมืออาชีพ” มิสเฮ จูน พาร์ค กล่าว

“ทั้งสององค์กรต้องการผลักดันให้เกิด ‘aging– in – place’ หรือ “การดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร โดยที่ผู้สูงอายุสามารถอยู่อาศัยในบ้านของตนเองได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น รวมถึงการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกและที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุ” รวมถึงเป็นสถานที่ที่ช่วยรักษาสุขภาพกายและดูแลสุขภาพสภาวะสมองของผู้สูงอายุให้มีชีวิตชีวา มีความสุขกับตัวตนที่แท้จริง เคารพตัวเอง อิ่มเอมกับธรรมชาติและ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและสังคมโดยรวม”

ภายใต้บันทึกข้อตกลงร่วมกันนี้ Baycrest จะช่วยให้คำปรึกษากับ ดิ แอสเพน ทรี พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตแบบใหม่สำหรับผู้สูงอายุโดยผสมผสานโปรแกรมสุขภาพของ Baycrest สำนักงานโตรอนโต ซึ่งดำเนินงานมานานกว่า 100 ปี

ดร. ไรช์แมน กล่าวว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศที่ประสบปัญหาจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งประเทศไทยมีอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุเป็นอันดับสามของทวีปเอเชีย โดยในปีพ.ศ. 2583 หนึ่งในสี่ของคนไทยจะมีอายุที่ 65 ปีหรือมากกว่า

“ประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ กำลังประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ หรือ ‘เกรย์ สินามิ’ Baycrest ซึ่งเป็นผู้นำด้านอายุรเวชและสภาวะสมอง จึงมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรศาสตร์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก” ดร. ไรช์แมน กล่าว

“เป็นความต้องการส่วนหนึ่งและเป็นส่วนสำคัญต่อวิสัยทัศน์ของเรา ในการสร้างโลกที่ผู้สูงอายุทุกคนจะสนุกสนานกับชีวิต มีแรงบันดาลใจและบรรลุเป้าหมายในชีวิต”

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC บริษัทแม่ของดิ แอสเพน ทรี ให้คำจำกัดความของการร่วมมือครั้งนี้ว่า “การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ” ท่ามกลางการขยับตัวของจำนวนประชากรในเอเชีย

“การเป็นพันธมิตรกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอย่าง Baycrest ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของ MQDC ในการรับมือกับสถานการณ์ของประเทศไทยและทั่วโลกเกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับความต้องการของประชากรผู้สูงอายุ ซึ่ง Baycrest มาเติมเต็มวิสัยทัศน์ของ MQDC ด้วยประสบการณ์กว่า 1 ศตวรรษในการดูแลรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเดินทางที่ยาวนานและไปได้ไกลกว่าองค์กรทั่วไป” คุณวิสิษฐ์ กล่าวเสริม

Comments

Share Tweet Line