มทร.สุวรรณภูมิอัพสกิลวิจัยเพื่อพัฒนาจังหวัด ร้อยจุดเด่นต.สามเรือนเป็นแหล่งเที่ยว-ชิลตลอดปี

มทร.สุวรรณภูมิอัพสกิลวิจัยเพื่อพัฒนาจังหวัด ร้อยจุดเด่นต.สามเรือนเป็นแหล่งเที่ยว-ชิลตลอดปี

   สำหรับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่รอนักท่องเที่ยวไปสัมผัสอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับงานวันเห็ดตับเต่างามที่สามเรือนมาบ้าง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในของดีในตำบลสามเรือน ที่นี่ยังมีของดีอีกมาก อาทิ  การล่องเรือไปตามคลองโพธิ์ชมวิถีชีวิตริมน้ำ แวะชมสวนเห็ดตับเต่า ดูนกกระจาบเหลืองอ่อนทำรัง กินขนมไข่เหี้ยน้ำ ชิมเห็ดตับเต่า อาหารพื้นถิ่นในปิ่นโต ทำแร้วดักปลา ชมสวนกล้วยไม้ตัดและกำเพื่อไปสักการะหลวงพ่อแก้ววัดสามเรือน


            แต่กว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าตื่นตาตื่นใจ  เบื้องหลัง “จุดขาย” เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากงานวิจัยที่เรียกว่า “นวัตกรรมงานวิจัยเพื่อการพัฒนาพื้นที่” รูปแบบงานวิจัยที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยขนาดกลางและขนาดเล็กนำไปใช้เพื่อตอบโจทย์จังหวัด  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ คือหนึ่ง 1 ใน 24 มหาวิทยาลัยที่ใช้กรอบวิจัยนี้ไปกำหนดโจทย์วิจัยของมหาวิทยาลัย   

            ดร.ธารนี นวัสนธี ผู้ช่วยคณบดีกำกับดูแลศูนย์วิจัยและนวัตกรรม คณะศิลปะศาสตร์ มทร.สุวรรณภูมิ เปิดเผยถึงงานวิจัยที่อยู่เบื้องหลังการท่องเที่ยวตำบลสามเรือนว่า เดิมที มทร.สุวรรณภูมิ ลงไปพื้นที่สามเรือนเพื่อทำโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มาก่อน ซึ่งทำให้รู้จักพื้นที่นี้เป็นอย่างดี ต่อมาได้รับทุน นวัตกรรมงานวิจัยเชิงพื้นที่ จาก สกว.ตั้งแต่ปี 2558 มาดำเนินโครงการในพื้นที่อยู่ 3-4 โครงการ เช่นงานวิจัยเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การพัฒนาสิ่งแวดล้อมและฟื้นฟูประเพณีโบราณของชุมชน, การสร้างมูลค่าเพิ่มให้เห็ดตับเต่าโดยการแปรรูป เป็นต้น           ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้น ใช้กระบวนการงานวิจัยใหม่ที่ต้องเอาโจทย์ของพื้นที่เป็นตัวตั้ง

            “งานวิจัยเริ่มจากกระบวนการหาโจทย์ ซึ่งเราต้องคุยกับชาวบ้านเพราะเขาเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัยโดยตรง ย้อนกลับไปหมู่บ้านนี้ยังไม่มีเรื่องท่องเที่ยวจะมีก็แต่การมาดูงานการต่อเชื้อเห็ดตับเต่าซึ่งเป็นเชิงธุรกิจ ส่วนที่เป็นไฮไลน์ก็คือการจัดงานวันเห็ดตับเต่างามที่สามเรือน ซึ่งมี อบต.สามเรือนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ร่วมกับชาวบ้านจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา 4 ปี ก่อน แต่การจัดงาน 3 วันใน 1 ปียังไม่เพียงพอที่จะสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชาวบ้าน จึงเป็นที่มาของงานวิจัยดังกล่าวข้างต้น สิ่งที่เขาอยากได้คือเรื่องการท่องเที่ยว ในขณะที่เขามีต้นทุนในเรื่องเห็ดตับเต่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่มาระยะหลังเริ่มน้อยลงเพราะน้ำเริ่มเน่าเสียจากโรงงาน, บ้านเรือนและการทำเกษตรกรรม เนื่องจากธรรมชาติของเห็ดตับเต่ามักขึ้นเฉพาะในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติค่อนข้างสูง น้ำต้องสะอาดดินต้องดีไม่มีสารเคมี ปีแรกๆ จึงมีทั้งส่วนของการส่งเสริมการเพาะเห็ด ทำอย่างไรคลองโพธิ์จะกลับมาดีเหมือนเดิม เราก็ทำวิจัยเรื่องคุณภาพน้ำ ทำเรื่องพันธุ์ปลา  ซึ่งทำงานควบคู่กับชาวบ้านเลย ตรงนี้ทำให้ชุมชนตื่นตัวและเกิดเป็นกลุ่มอนุรักษ์คลองโพธิ์ขึ้น พอทำไปสักระยะ เห็นความเปลี่ยนแปลงว่าเห็ดเริ่มมีปริมาณมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำเรื่องการแปรรูป เอาความรู้ไปให้ชาวบ้านซึ่งต่างจากงานบริการวิชาการปกติ 12 เดือนที่เราทำวิจัยเราจะต้องพาชาวบ้านคิด พาทำ จนเขาเชื่อใจ ซึ่งในที่สุดก็เกิดเป็นกลุ่มแปรรูปขึ้น”

 

จากงานวิจัยที่มทร.สุวรรณภูมิลงไปคลุกคลีกับชาวบ้านในชุมชน และสร้างให้ชาวบ้านเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยไม่ใช่เฉพาะเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัยเท่านั้น แต่ยังสร้างความเป็นนักวิจัยในชุมชนด้วย ทำให้ชาวบ้านตื่นตัวและนำมาซึ่งการพัฒนาต่อยอดไปเรื่องอื่นๆ เช่น อยากจะพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยวเพื่อให้มีคนมาเที่ยว สร้างรายได้ชุมชน ทำให้เกิดการค้นคว้าหาของดีของบ้านตัวเอง เอาข้อมูลมาแชร์กัน ทำให้นักวิจัยและชาวบ้านเองก็เพิ่งได้เห็นของดีในตำบล เกิดเป็นกิจกรรม ล่องเรือ ชมทิ้งถ่วงที่ชาวบ้านบอกว่าเป็นญาติกับหิ่งห้อย การค้นพบปราชญ์ชาวบ้านที่ทำแร้วดักปลา มีคนทำขนมไข่เหี้ยน้ำ เกิดแหล่งดูนกกระจาบ รวมถึงการฟื้นฟูประเพณีการอาบน้ำคืนเพ็ญ และเกิดกลุ่มที่พักในแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และนักสื่อความหมาย(ยุวมัคคุเทศก์)รองรับนักท่องเที่ยวในที่สุด

            ดร.วิจิตรา และดร.วชิรญา เหลียวตระกูล สองอาจารย์นักวิจัยจากคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มทร.สุวรรณภูมิ กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ทำงานวิจัยในพื้นที่ นั้นปีแรกเน้นเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปีที่สองเป็นการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ให้ชาวบ้านได้เรียนรู้เรื่องสุขาภิบาล ทำอย่างไรให้อาหารปลอดภัย  เรื่อง 5 ส. ส่วนปีที่ 3 ทำเรื่อง by -product จากตัวกระบวนการแปรรูป พวกน้ำทิ้งจากการลวกเห็ด การตัดแต่งตัวเห็ด ซึ่งสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อีกมาก

             ด้าน นางจันทร์ธนา แก้วลี เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชนปฏิบัติงาน อบต.สามเรือน ในฐานะผู้ประสานงานโครงการวิจัยในพื้นที่ซึ่งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาตลอด เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่า อบต.กับมทร.สุวรรณภูมินั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2544 สิ่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในช่วง 3-4 ปี ที่มีงานวิจัยเชิงพื้นที่เข้ามา จากเดิมที่ชาวบ้านขอจากอบต.จะเป็นพวก ประปา ไฟฟ้า อยากได้ถนน ซึ่งเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน แต่ตอนนี้ชาวบ้านเราอยากจะฝึกอาชีพ อยากพัฒนาตัวเอง ซึ่งเราเองก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ชาวบ้านเริ่มตื่นตัวเรื่องการพัฒนาอาชีพ เรื่องการท่องเที่ยวซึ่งอบต.ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

            สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะลองไปสัมผัสการท่องเที่ยวในแบบของสามเรือน สามารถติดต่อได้ที่ “นางวรารัตน์ ชาติวิเศษ” เบอร์โทรศัพท์ 086-1339269 

Comments

Share Tweet Line