แอร์บัส เสนอเครื่องบินทหาร,ผลิตภัณฑ์ด้านอวกาศรุ่นใหม่ให้ไทย

แอร์บัส เสนอเครื่องบินทหาร,ผลิตภัณฑ์ด้านอวกาศรุ่นใหม่ให้ไทย

แอร์บัสพร้อมตอบสนองความต้องการทางด้านการป้องกัน อวกาศและความมั่นคงของประเทศไทยด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัย ซึ่งบริษัทจะทำการกล่าวถึงในงานสัมมนา “ดีเฟนซ์ เดย์” ที่จะจัดขึ้นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตรของบริษัทฯ 


นาย โยฮัน เปอริซซิเย่ร์ ผู้อำนวยการประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ ได้กล่าวในงานสนทนากลุ่มย่อยกับสื่อมวลชนซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันกับงานดีเฟนซ์ เดย์ ว่า ปัจจุบันกองทัพบกของไทยได้ปฏิบัติการด้วยเครื่องบินลำเลียงขนาดกลางของบริษัทอย่าง ซี295 ส่วนความร่วมมือที่มีกับประเทศไทยในด้านอวกาศนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 เมื่อแอร์บัสได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดหาดาวเทียมสำรวจโลก ธีออส-1 

“ประเทศไทยเป็นลูกค้ารายที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับแอร์บัส ซึ่งเครื่องบินซี295 ช่วยยกระดับฝูงบินลำเลียงของกองทัพบกให้ทันสมัย และรองรับภารกิจทั้งทางทหารและภารกิจเพื่อมนุษยธรรมที่หลากหลาย” เขากล่าวเสริมว่า “ดาวเทียมที่แอร์บัสได้ส่งมอบในปี พ.ศ. 2551 นั้นได้สนับสนุนภารกิจต่างๆ เช่น ทางด้านเกษตรกรรมและการตรวจดูชายฝั่ง รวมไปถึงการทำป่าไม้และการจัดการความเสี่ยงของอุทกภัย และยังคงให้ภาพถ่ายคุณภาพสูงไปได้อีกกว่าสี่ปีนับจากเวลาที่คาดว่าจะหมดอายุการใช้งาน”

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (จิสด้า) ได้เลือกให้แอร์บัสเป็นพันธมิตรในส่วนของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ยุคใหม่ของประเทศไทย โดยแอร์บัสจะได้จัดหาดาวเทียมสำรวจโลกสองดวง ประกอบด้วยดาวเทียมที่มีภาพความละเอียดสูงมากหนึ่งดวง และระบบดาวเทียมขนาดเล็กอีกหนึ่งดวง โดยโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถจะครอบคลุมถึง การประกอบและทดสอบระบบดาวเทียมขนาดเล็ก และการพัฒนาระบบบูรณการภูมิสารสนเทศและภาคพื้นในประเทศ

“เรามีความยินดีที่ได้รับเกียรติจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (จิสด้า) ที่ให้ความเชื่อมั่นในตัวเราอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบที่ครบวงจรนั้นทำให้ประเทศไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่สามารถใช้ประโยชน์จากภูมิสารสนเทศเพื่อประโยชน์สาธารณะได้อย่างสมบูรณ์” นาย โยฮัน เปอริซซิเย่ร์ กล่าว “สัญญาดังกล่าวจะทำให้เราส่งมอบเทคโนโลยีให้กับประเทศไทย ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของคนไทย โดยผู้ประกอบการในพื้นที่จะมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน และเป็นโครงการที่สนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และช่วยการพัฒนาด้านการอวกาศในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และที่ดิจิทัลพาร์ค (Digital Park)”

ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจด้านการป้องกันมากว่า 10 ปี ทำให้แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ มีประวัติการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการสำหรับภารกิจที่ท้าทายต่างๆ มากมาย โดยรวมถึงเครื่องบินลำเลียงยุทธวิธี อย่าง เอ400เอ็ม และ ซี295 เครื่องบินบรรทุกน้ำมันเอนกประสงค์ เอ330เอ็มอาร์ทีที และเครื่องบินรบยูโรไฟเตอร์ ไต้ฝุ่น

สำหรับลูกค้ารายอื่นๆ ในเอเชีย ได้แก่ ออสเตรเลียและสิงคโปร์ ซึ่งปฏิบัติการด้วย เอ330เอ็มอาร์ทีที และเกาหลีใต้ ที่จะได้รับมอบเครื่องบินลำแรกในปี พ.ศ. 2561 นี้ ส่วนมาเลเซีย เป็นลูกค้ารายแรกนอกยุโรปสำหรับเครื่องบินลำเลียง เอ400เอ็ม โดยมีเครื่องบินประจำการอยู่ถึง 4 ลำ และปัจจุบ้นนอกเหนือไปจากประเทศไทย เครื่องบินลำเลียง ซี295 ยังประจำการเพื่อปฏิบัติการอยู่ในบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

“ผมอยากจะเน้นย้ำถึงความยั่งยืนของ ซี295 เพื่อใช้ในภารกิจการตรวจการณ์ทางทะเล โดยเครื่องบินรุ่นนี้จะมอบประโยชน์และความสามารถที่ดีที่สุดในบรรดาเครื่องบินประเภทเดียวกัน และเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับประเทศในเอเชียที่ต้องการตรวจการณ์ชายฝั่งที่มีพื้นที่กว้างและให้ความมั่นคงแก่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของตน” นาย โยฮัน เปอริชซิเย่ร์ กล่าว

“เครื่องบินยุคใหม่อย่าง เอ400เอ็ม ยังเหมาะสมสำหรับประเทศที่ปฏิบัติการด้วยเครื่องบินลำเลียงแบบเดิม ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการออกแบบเมื่อ 50 ปีที่แล้ว โดย เอ400เอ็ม นั้นสามารถบินได้ไกลเป็นสองเท่าหรือบรรทุกได้มากเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับเครื่องบินคู่แข่ง โดยได้รับการพิสูจน์แล้วถึงความคุ้มค่าในภารกิจเพื่อมนุษยธรรมในเอเชีย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดที่เมืองปาลู ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเอ400เอ็ม ได้ขนส่งสิ่งของช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ไปมากกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นๆ รวมไปถึงการบรรทุกสิ่งของที่มีขนาดใหญ่พิเศษ เช่น เครื่องขุดเจาะ ซึ่งสามารถส่งมอบไปยังจุดที่มีความต้องการได้”

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line