7 วิธีเยียวยาจิตใจ รับมือวันเลวร้ายฉบับคนเข้มแข็ง(จากหนังสือ 13 สิ่งที่คนเข้มแข็งเขาไม่ทำกัน)

 7 วิธีเยียวยาจิตใจ รับมือวันเลวร้ายฉบับคนเข้มแข็ง(จากหนังสือ 13 สิ่งที่คนเข้มแข็งเขาไม่ทำกัน)

เคยนับไหมว่าในชีวิตเราต้องพบเจอกับวันเลวร้ายกี่ครั้ง ความเศร้าที่แวะเวียนเข้ามาในห้วงความรู้สึก จะได้รับการปลอบประโลมอย่างเหมาะสมในทุกครั้งไหม แล้วทำไมผู้ประสบปัญหาทางอารมณ์ถึงมีมากขึ้นในปัจจุบัน นั่นเพราะชนวนความเศร้าอาจซ่อนอยู่ในตัวเราทุกคนและพร้อมที่จะระเบิดอยู่ตลอดเวลา


จากบทความ 13 Things Mentally Strong People Don’t Do โดย เอมี โมริน ในเว็บไซต์ Forbes  ซึ่งมีผู้กดอ่านกว่า 10 ล้านครั้ง จนได้รับการรวบรวมเป็นหนังสือ และตีพิมพ์กว่า 30 ภาษาทั่วโลก รวมถึงลิขสิทธิ์แปลไทยโดยสำนักพิมพ์ Shortcut ในชื่อ 13 สิ่งที่คนเข้มแข็งเขาไม่ทำกัน เรื่องที่ดูเหมือนไกลตัว แต่กลับได้รับความสนใจ เพราะโลกของเรายังมีผู้คนต้องการได้รับการเยียวยาทางจิตใจมากกว่าที่คิด ครั้งนี้จึงขอนำเสนอ “7 วิธีเยียวยาจิตใจ ฉบับคนเข้มแข็ง” เพราะยังมีความเข้าใจผิดมากมาย เกี่ยวกับความหมายของการมีจิตใจที่เข้มแข็ง นี่คือข้อเท็จจริงบางส่วนเกี่ยวกับความเข้มแข็งทางจิตใจ เริ่มจาก

การมีจิตใจที่เข้มแข็งไม่ใช่การแสดงออกว่าตัวเองแกร่ง คุณไม่ต้องกลายเป็นหุ่นยนต์หรือแสดงว่าตัวเองมีเกราะคุ้มกันที่แข็งแกร่งเมื่อคุณมีจิตใจที่เข้มแข็ง ในทางกลับกัน มันคือการทำในสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับคุณเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

ความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ใช่การเพิกเฉยต่ออารมณ์ของตัวเอง การเพิ่มความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ได้หมายถึงการกดอารมณ์ของคุณเอาไว้ ในทางกลับกัน มันคือการสร้างความรับรู้ถึงอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งก็คือการตีความและเข้าใจว่าอารมณ์ของคุณมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของคุณอย่างไรนั่นเอง

คุณไม่ต้องทำให้ร่างกายของคุณเป็นเครื่องจักรที่มีจิตใจเข้มแข็ง ความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ได้หมายถึงการผลักร่างกายไปถึงขีดสุดเพื่อแค่จะพิสูจน์ว่าคุณสามารถเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดได้ แต่คือการเข้าใจความคิดและความรู้สึกของตัวคุณเองดีพอที่จะสามารถตัดสินได้ว่าเมื่อไหร่ที่จะประพฤติตัวในทางตรงกันข้ามและเมื่อไหร่ที่จะเชื่อฟังมัน

การมีจิตใจที่เข้มแข็งไม่ได้หมายความว่าคุณต้องพึ่งพาตัวเองเพียงอย่างเดียว ความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ใช่การป่าวประกาศว่าคุณไม่เคยต้องการความช่วยเหลือจากใครหรือสิ่งเบื้องบนใด ๆเลย การยอมรับว่าตัวเองไม่มีคำตอบให้ทุกอย่าง การขอความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ และการรับรู้ว่าคุณสามารถได้รับพลังจากเบื้องบน เป็นสัญญาณที่แสดงถึงความต้องการที่จะเข้มแข็งขึ้นอีกด้วย

การมีจิตใจที่เข้มแข็งไม่ใช่การคิดบวก การคิดบวกมากเกินไปอาจเป็นอันตรายเช่นเดียวกับการคิดลบมากเกินไป ความเข้มแข็งทางจิตใจคือการคิดอย่างสมจริงและสมเหตุสมผล ยอมรับความเป็นจริง เพื่อพร้อมรับมือกับทุกอุปสรรคชีวิตอย่างแท้จริง

การพัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ใช่การไล่ตามความสุข การมีความเข้มแข็งทางจิตใจจะช่วยให้คุณรู้สึกพอใจในชีวิตมากขึ้น แต่มันไม่ใช่การตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วพยายามบังคับให้ตัวเองรู้สึกมีความสุข ในทางกลับกัน มันคือการเลือกตัดสินใจที่จะช่วยให้คุณบรรลุศักยภาพสูงสุดของตัวเองด้วย

ความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ใช่เพียงแค่กระแสความนิยมด้านจิตวิทยาล่าสุด โลกของจิตวิทยามักจะเต็มไปด้วยความคิดชั่วครู่ชั่วคราวว่าคุณจะเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดได้อย่างไร ความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ใช่กระแส วงการจิตวิทยาได้ช่วยให้ผู้คนเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ1960 แล้ว

ความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ใช่คำเหมือนของคำว่าสุขภาพจิต ในขณะที่อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพมักพูดเกี่ยวกับสุขภาพจิตเทียบกับการป่วยทางจิต แต่ความเข้มแข็งทางจิตใจคือสิ่งที่ต่างออกไป การมีความเจ็บป่วยทางจิตไม่ได้หมายความว่าคุณถูกกำหนดให้มีนิสัยแย่ ๆ ในทางกลับกัน คุณยังสามารถเลือกที่จะสร้างนิสัยที่ดีได้ มันอาจต้องใช้การลงมือทำมากกว่า ใช้ความใส่ใจมากกว่า และความพยายามมากกว่า แต่มันเป็นไปได้อย่างแน่นอน 

การหลีกเลี่ยงนิสัยบางอย่างที่กล่าวมานี้ ไม่เพียงพอจะช่วยให้คุณสามารถผ่านความเศร้าโศกได้ แต่การเลิกทำนิสัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีจิตใจที่แข็งแกร่งซึ่งจำเป็นต่อการรับมือกับทุกปัญหาของชีวิต ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าจุดมุ่งหมายของคุณคืออะไร คุณจะมีความพร้อมในการไปถึงศักยภาพที่สูงสุดของตัวเองมากกว่า เมื่อคุณรู้สึกถึงความเข้มแข็งทางจิตใจนั่นเอง

ค้นหาคำตอบทั้ง 13 สิ่งที่จะช่วยคุณรับมือกับวันเลวร้าย เพื่อยกระดับจิตใจให้เข้มแข็งอย่างแท้จริง ในหนังสือ 13 สิ่งที่คนเข้มแข็งเขาไม่ทำกัน วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านนายอินทร์ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ราคาเล่มละ 255 บาท หรือสั่งซื้อผ่าน www.amarinbooks.com

 

Comments

Share Tweet Line