สธ. พบนายก ชวนเที่ยวงานมหกรรมสมุนไพร อภัยภูเบศรสีสันของงานจัดเต็มสมุนไพรดูแลไต

คณะผู้จัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 16 นำโดย นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายจัดงาน ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชาสัมพันธ์งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ซึ่งปีนี้เลื่อนมาจัดเร็วขึ้นเป็น วันที่ 6-10 มีนาคม 2562 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 10-12

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์การพัฒนาการแพทย์แผนไทยและหัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  กล่าวว่า “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติในปีนี้ อภัยภูเบศร ได้นำเสนอสมุนไพรเพื่อไต รวมถึงแนวคิดการดูแลไตอย่างเป็นองค์รวม เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้เรียนรู้และรู้จักการเลือกใช้สมุนไพรสำหรับการดูแลไตอย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันก่อนรักษา เพราะหากไตไม่สามารถทำหน้าที่ได้ จะทำให้เกิดของเสียคั่งค้างในร่างกาย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย”

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า “จากการศึกษา รวบรวมข้อมูลทั้งจากงานวิจัยของต่างชาติ การใช้โดยภูมิปัญญาชาวบ้าน หมอยาพื้นบ้าน พบว่ามีการใช้สมุนไพรพื้นบ้านเพื่อการดูแลไต ที่คล้ายคลึงกันอยู่มากและเพื่อสื่อสารให้คนไทยในปัจจุบันได้นำองค์ความรู้พื้นบ้านไปใช้ประโยชน์เราได้ทำการสังเคราะห์เป็นองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพไตอย่างง่าย เพื่อเป็นคู่มือในการดูแลสุขภาพของประชาชน ในชื่อ บันทึกของแผ่นดิน ๑๑ สมุนไพร..เพื่อไต โดย นำมาแจกฟรีภายในงาน วันละ 200 เล่ม นอกจากนี้ ยังมี 5 สุดยอดสมุนไพรบำรุงไต แจกฟรี วันละ 300 ต้นให้กับผู้ที่มาในงาน  ได้แก่ กล้วยป่า(กล้วยหก)  มีสารในกลุ่มโพลีฟีนอล ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ไต จากภาวะอนุมูลอิสระเกิน และที่ประหลาดใจในสมุนไพรต้นนี้ คือมีผู้เฒ่าชาวเขากินน้ำต้มใบกล้วยป่าแล้วค่าไตดีขึ้นจนไม่ต้องทำการฟอกไตอีก ถัดมาคือ เจ็ดกำลังช้างสาร มีฤทธิ์เด่นคือ ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ หมอยาพื้นบ้านใช้เป็นยาบำรุงไต  ผักขมหิน ในอายุรเวทอินเดียมีการใช้ผักตัวนี้เยอะมากเพื่อการดูแลไต

โดยฤทธิ์เด่นของผักขมหินคือ ขับปัสสาวะ ลดการอักเสบ ลดบวม และมีข้อมูลพบว่าฟื้นฟูเซลล์ไตได้  หญ้าหนวดแมว มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับยูริค และขับนิ่วขนาดเล็กๆได้  และ ต้นเกล็ดปลาหรือพื้นบ้านเรียก ต้นเบาหวาน มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ขับปัสสาวะ ขับนิ่วในไต ลดการอักเสบ”  สมุนไพรหลายตัวที่นำมาให้ความรู้ ต่างประเทศมีการขึ้นทะเบียนและจำหน่ายแล้ว แต่ในบ้านเรายังมีคนรู้จักน้อย และยังไม่มีงานวิจัยมากนัก  แต่เป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพและมีประสบการณ์การใช้ จึงเหมาะที่จะนำมาต่อยอด และทำการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มมูลค่า หรือส่งเสริมให้ประชาชนใช้เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพก็จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้  รวมถึงยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกด้วย” ดร.สุภาภรณ์ กล่าว 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมาก รวมถึงเวทีความรู้และการอบรมระยะสั้นกว่า 26 หลักสูตร เป็นอีกงานดีที่จะทำให้คนไทยมีสุขภาพดีขึ้น และอยากเชิญชวนให้มาร่วมงานกันในวันที่ 6 ถึง 10 มีนาคม นี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์10-12 เวลา 10.00-20.00น.