บัณฑิตจาก Asia School of Business เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงในโครงการ Action Learning สุดล้ำ

บัณฑิตจาก Asia School of Business เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงในโครงการ Action Learning สุดล้ำ

บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจาก Asia School of Business (ASB) วิทยาลัยธุรกิจระดับโลกซึ่งก่อตั้งโดยธนาคารกลางมาเลเซีย และ MIT Sloan School of Management จากสหรัฐ เป็นที่ต้องการในตลาดงานอย่างมาก โดยบัณฑิตหลายคนได้รับข้อเสนอเข้าทำงานก่อนพิธีรับปริญญา


มหาบัณฑิตสาขาบริหารธุรกิจ (MBA) รุ่นปี 2562 ที่เข้าพิธีรับปริญญาบัตรในวันนี้ (15 เม.ย.) ล้วนเป็นที่ต้องการในตลาดงานทั่วทั้งเอเชียและในทวีปอื่น ๆ โดยมหาบัณฑิตเหล่านี้ได้รับข้อเสนอเข้าทำงานจากบริษัทที่มีชื่อเสียง เช่น แอมะซอน แมคคินซี่ แก๊ป เฟซบุ๊ก แอร์เอเชีย เอสเควล ตีตี้ จ็อบสตรีท ไมโครซอฟท์ และแม็กซิส เป็นต้น

โอกาสนี้ ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะแขกกิตติมศักดิ์ ได้กล่าวสุนทรพจน์และแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตในพิธีสำเร็จการศึกษา ก่อนรับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ไฟน์ อธิการบดีและคณบดีวิทยาลัย ASB

หนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้บัณฑิตจากวิทยาลัย ASB เป็นที่ต้องการในตลาดงานอย่างมากคือ โครงการ Action Learning ในหลักสูตรปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ลงมือแก้ไขปัญหาธุรกิจในโลกจริง ผ่านการศึกษาเรียนรู้ในบริษัททั่วเอเชียและทวีปอื่น ๆ เป็นเวลากว่าเจ็ดเดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรระยะเวลารวม 20 เดือน

ศาสตราจารย์ไฟน์กล่าวว่า "เราทราบดีว่า บริษัทต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับช่องว่างทักษะที่พบได้บ่อยในบัณฑิตจบใหม่ และด้วยเหตุนี้เอง เราจึงได้จัดทำโครงการเพื่อสร้างความมั่นใจว่า นักศึกษาของเรามีความพร้อมในการเข้าสู่โลกการทำงานที่เข้มงวด ตลอดจนพร้อมเข้าทำงานในตำแหน่งระดับผู้จัดการที่มีความท้าทาย"

ศาสตราจารย์ไฟน์ยังได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการวิทยาลัย ASB ซึ่งหลายท่านเป็นผู้บริหารของบริษัทที่รับกลุ่มนักศึกษาในโครงการ Action Learning เข้าเรียนรู้และฝึกงาน และได้กล่าวขอบคุณบริษัทพันธมิตรจาก 18 ประเทศที่รับนักศึกษาในโครงการ Action Learning มาตั้งแต่ที่วิทยาลัย ASB ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 โดยบริษัทที่เข้าร่วมโครงการนี้ ได้แก่ ซาปุระ เอ็นเนอร์จี บริษัทไดว่า สตีล ธนาคารกรุงเทพ บริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ประเทศไทย เดล มอนเต้ ไมโครซอฟท์ ปิโตรนาส แม็กซิส จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เนสท์เล่ ซัมซุง และยูนิลีเวอร์

ศาสตราจารย์ไฟน์กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า โครงการดังกล่าวเน้นการทำงานเป็นทีม จึงได้ช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นค่านิยมหลักของวิทยาลัย ASBก่อนจะปิดท้ายว่าบริษัทที่เข้าร่วมโครงการล้วนได้รับประโยชน์โดยตรง กล่าวคือการมีผลิตภาพเพิ่มขึ้นจากพลังงาน ความรู้ และการแก้ปัญหาของนักศึกษา

สำหรับทิศทางในอนาคตของวิทยาลัย ASB นั้น ศาสตราจารย์ไฟน์กล่าวถึงแผนการที่จะขยายหลักสูตรการศึกษาโดยเพิ่มหลักสูตรนอกเวลาและหลักสูตรระยะสั้นสำหรับผู้บริหาร นอกจากนี้ วิทยาลัย ASB ยังมีแผนที่จะรับนักศึกษาจำนวนมากขึ้น เมื่อวิทยาเขตแห่งใหม่ที่มีความทันสมัยพร้อมเปิดสอนในปีหน้านี้

Comments

Share Tweet Line