เปิดชีวิต “หลิว อาจารียา” เคยลำบากแม้น้ำปลาก็ไม่มีจะกิน!!!!!

เปิดชีวิต “หลิว อาจารียา” เคยลำบากแม้น้ำปลาก็ไม่มีจะกิน!!!!!

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักร้องเลยก็ว่าได้ สำหรับ หลิว อาจารียา ที่ไม่ว่าจะออกอัลบั้มไหน แฟนๆ ก็สามารถร้องตามและเต้นไปกับเธอได้ตลอด ล่าสุด หลิว อาจารียา ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มีหนิง ปณิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร

เห็นว่าคบแฟนมา 8 ปีแล้ว?
หลิว : ค่ะ เข้าสู่ปีที่ 8 แต่เราไม่ได้ลงโซเชียล จริงๆ ที่ผ่านมานักข่าวก็จะถามว่าคบกับใคร เราก็จะตอบแต่คู่เราไม่มีโมเมนต์สวีทเลย เพราะผู้ชายเขาจะเขิน เขาไม่อยากออกสื่อ


เห็นว่าช่วง 5 ปีแรกเป็นการแอบคบ?
หลิว : ค่ะ แต่ไม่เชิงว่าแอบคบ เราไม่เปิดเผยว่าเรามีแฟนพ่อแม่ต่างฝ่ายต่างรับรู้ แล้วช่วง 5 ปีที่แล้วนักร้องลูกทุ่งเขายังไม่เปิดเผย กลัวว่าแฟนคลับจะนู้น นี่นั่นหรือเปล่า


แล้ววันนี้เราเปิดเผยแล้ว แฟนคลับว่ายังไงบ้าง?
หลิว : มันเป็นเรื่องปกติ เขาก็รักในผลงานของเรา


แฟนทำงานอะไร อายุเท่าไหร่?
หลิว : เขาทำเครื่องเสียง เวที แสง สีเสียง งานที่ผ่านมาก็คือ สงกรานต์ที่บุรีรัมย์ 


ไปรู้จักกันได้ยังไง?
หลิว : คือคุณพ่อบุญธรรมเป็นเพื่อนกับพ่อเขา ก็เลยแนะนำ รู้จักกันผ่านงานแต่ง ตั้งแต่วันนั้นมาก็ได้คุยกันมาเรื่อยๆ


มีแพลนจะแต่งงานหรือยัง?
หลิว : เคยมีช่วง 4 ปีที่แล้ว แต่เราก็บอกว่าอย่าเพิ่ง เราอยากทำงาน คือสมมุติตอนนั้นเราบอกว่าอีก 3 ปีนะ แล้วพอเวลาผ่านไปเราก็บอกอีก 3 ปีนะ เขาก็บอกว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน


มาพูดถึงชีวิตน้องหลิวตอนเด็กดีกว่าเห็นว่าลำบากมาก?
หลิว : ในช่วงนั้นลำบากมาก เพราะว่าอยู่กับตากับยาย มีช่วงนึงไม่มีน้ำปลา ต้องไปยืมข้างบ้าน บางทีมันลืมไม่ได้ไปซื้อ แล้วขอเงินยายไม่ได้เพราะตอนนั้นเด็กมาก แล้วยืมบ่อยๆ ข้างบ้านก็บอกว่าอะไรว่ะแค่น้ำปลาไม่มีตังซื้อ มันก็คิดนะ เออใช่ แค่น้ำปลาทำไมซื้อไม่ได้ต้องไปยืมเขา


ขอโทษนะคะ แล้วคุณพ่อ คุณแม่?
หลิว : แยกทางกันตั้งแต่เด็ก และช่วงนั้นหารายได้ด้วยการห่อขนมจีบ ได้วันละ 10-20 บาท ส่วนคุณตาเป็นช่างไม้ คุณยายเป็นช่างทำอิฐบล็อก ก็จะได้วันละ 120-150 รวมกันก็ได้สองร้อยกว่าบาท ซึ่งเราก็ต้องเรียนไปด้วย ไหนจะค่าเรียน ค่ากิน ค่าอยู่


ชีวิตลำบากขนาดนี้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
หลิว : จริงๆ มันเป็นช่วงชีวิตพลิกผัน ตั้งแต่ป.6 คุณพ่อเลิกซัพพอร์ต เราก็เลยลำบากตรงนั้น ทุกวันนี้ก็ยังเจอบ้าง หนูก็ยังส่งให้คุณพ่อ คุณแม่ ทุกเดือน


ณ ตอนนั้นเราน้อยใจไหมว่าทำไมเราไม่มีคุณพ่อ คุณแม่ เหมือนเด็กคนอื่นๆ?
หลิว : ตอนแรกๆ ก็รู้สึกค่ะ แต่พอแบบอยู่ไปเรื่อยๆ คุณตา คุณยายเขาดูแลเราดีมากๆ จนเราไม่รู้สึกขาดตรงนั้น เพราะคุณตา คุณยายก็เปรียบเหมือนพ่อ แม่เรา


แล้วเรามีโอกาสเข้ามาร้องเพลงได้ยังไง?
หลิว : เราก็ไปร้องเพลงอยู่เรื่อยๆ ก็มีวงเล็กๆ วงโนเนม เจ้าของวงมาเจอเราแล้วมาชวนเราไปร้อง เขาก็แต่งเพลงไปด้วย เขาก็เลยให้เราร้องไกด์แล้วส่งไปตามค่ายเพลงต่างๆ แล้วมีอยู่ค่ายนึงอยากได้นักร้องใหม่ แล้วเขาชอบเสียงมาดูตัวเราก็ได้เป็นนักร้อง แต่ก็ยังไม่ดัง นานมากเมื่อก่อนนักร้องลูกทุ่งโชว์สะดือจะไม่ค่อยมี หลิวเป็นคนแรกเลยที่ใส่แบบนั้น โดนว่าเยอะมาก โดนเปรียบเทียบกับรุ่นพี่ที่เขาลูกคอเก้าชั้น


ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดหลิวโดนเปรียบเทียบว่าไม่ใช่ความสามารถแต่กลับเอาเรือนร่างมาใช้?
หลิว : ประมานนั้น ก็รู้สึกแย่มากๆ เราไม่ได้ใช้เรือนร่างขนาดนั้น เราแค่ใช่ชุดปอมปอมเชียร์ เพราะหลิวมาจากเชียร์ลีดเดอร์มาก่อน เขาก็เลยใส่คอนเซ็ปต์ให้เราเป็นแบบนั้น เขาก็เลยเปรียบเทียบเสียงไม่ดีเลยอะไรอย่างนี้


เห็นว่าโดนดูถูกเรื่องหน้าตาด้วย?
หลิว : อาจจะไม่ได้โดนดูถูก แต่ไปเจอคุณพ่อบุญธรรม เขาบอกว่าลองปัดผมมาด้านนี้สิ ลองหันซ้าย หันขวาสิ ทำไมหน้าบาน ดั้งหักอย่างนี้ เราก็เลยรู้สึกว่าทำไมเราเป็นนักร้องไม่ได้เป็นดารา แต่คุณพ่อเขาแค่อยากรู้มุมไหนเราดูดี แล้วโดนดูถูกครั้งยิ่งใหญ่ที่หลิวต้องปรับและเปลี่ยนตัวเอง ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ออกอัลบั้มแรก หลิวไปขอเพลงจากครูเพลงท่านนึงขอว่าอยากได้เพลงจากอาจารย์ แล้วเขาพูดกลับมาว่าอย่างเธอหรอจะร้องได้ อย่างเธอก็ร้องได้แค่แนวง่ายๆ เราก็ร้องไห้เลย เราก็ซ้อมทุกวันเลย

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama


REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line