BD เปิดตัวโครงการ PRIME ในเอเชีย มุ่งพัฒนาแนวทางป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยของยา

BD เปิดตัวโครงการ PRIME ในเอเชีย มุ่งพัฒนาแนวทางป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยของยา

BD (Becton, Dickinson and Company) บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ชั้นนำของโลก ได้ประกาศเปิดตัวโครงการส่งเสริมความปลอดภัยของผู้ป่วยสำหรับโรงพยาบาลในชื่อ Preventing Risks of Infections and Medication Errors in IV Therapy (PRIME) โครงการใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับปัญหาท้าทายอันดับต้น ๆ 2 ประการที่ปรากฏให้เห็นในโรงพยาบาล นั่นคือการป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยของยา โดยโครงการ PRIME พัฒนาขึ้นโดยองค์กร Joint Commission International for Patient Safety พร้อมด้วยการสนับสนุนจาก BD


Dr. Marwa J. Zohdy รองประธานประจำ Global Consulting Services, Joint Commission Resources/Joint Commission International (JCI) กล่าวเกี่ยวกับการที่ JCI ได้ริเริ่มโครงการ PRIME ร่วมกับ BD ว่า "การเตรียมและจัดการยาถือเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อคุณภาพและความปลอดภัยในการดูแลผู้ป่วยทั่วโลก JCI เล็งเห็นถึงความจำเป็นพื้นฐานในการเพิ่มพูนศักยภาพในเรื่องนี้โดยมีหลักฐานรองรับ ซึ่งโครงการ PRIME อันเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ จะเข้ามารองรับความจำเป็นดังกล่าว โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าจาก JCI ร่วมด้วยการสนับสนุนจาก BD ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นหลักสูตรที่ใช้ได้จริงและนำทักษะจำเป็นต่าง ๆ มาใช้"

แนวทางที่เป็นแผนการเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยของผู้ป่วยอันเป็นเอกลักษณ์นี้ จะมีการดำเนินการเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย ทบทวนความคืบหน้าเป็นประจำ การปรึกษาทางไกลร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญ และจัดเว็บบินาร์อัปเดทข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ โดยโรงพยาบาลต่าง ๆ จะได้รับการรับรองเมื่อสำเร็จโปรแกรมนี้

คุณ Raymond Chow รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียกลางของ BD กล่าวว่า "การให้ยาผ่านช่องทางต่าง ๆ นั้นนำมาซึ่งปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกลุ่มเกิดใหม่ ที่ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้อาจรุนแรงขึ้น เพราะขาดความตระหนักรู้ ขาดมาตรฐาน ไม่มีการประเมินทักษะ และไม่มีการนำเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่ปลอดภัยมาใช้ ทั้งนี้ โครงการ PRIME มีขึ้นเพื่อจัดการปัญหาเสี่ยงดังกล่าว ซึ่งมักไม่มีผู้พบเห็นเพราะให้ความสำคัญหรือไม่ก็มีความรู้ไม่เพียงพอเกี่ยวกับขั้นตอนในการบริหารจัดการยาอย่างเป็นระบบ"

PRIME ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22-26 เมษายนที่ผ่านมาในประเทศตามรายชื่อดังต่อไปนี้: เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินเดีย และนับจนถึงขณะนี้มีโรงพยาบาลชั้นนำเข้าร่วมโครงการนี้แล้วทั้งสิ้น 21 แห่ง

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line