เรียนชกมวย vs พิลาทีส ตัวเลือกไหนช่วยให้เฟิร์มได้มากกว่ากัน

เรียนชกมวย vs พิลาทีส ตัวเลือกไหนช่วยให้เฟิร์มได้มากกว่ากัน

นอกเหนือไปจากการออกกำลังกายอันสุดแสนจะเบสิคอย่างการวิ่งหรือการปั่นจักรยานแล้ว ทุกคนรู้ไหมว่าในปัจจุบันได้มีผู้คิดค้นแนวทางการออกกำลังกายใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี โดยสองแนวทางการออกกำลังกายที่เรียกได้ว่ามาแรงแซงทุกโค้งได้แก่ การเรียนชกมวย และการเล่นพิลาทีส แน่นอนว่าจุดมุ่งหมายสำคัญที่ผู้คนต่างหันมาออกกำลังกายกันด้วยสองช่องทางดังกล่าวคงหนีไม่พ้นการมีรูปร่างที่ดี ว่าแต่วิธีไหนที่จะช่วยให้เราไปถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ได้ไวกว่ากันล่ะ ? ไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวกันอีกต่อไป เพราะวันนี้เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการเรียนชกมวยและการพิลาทิสมาเปรียบเทียบกันให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่าแบบไหนที่ตอบโจทย์ได้มากกว่ากัน ถ้าอยากรู้แล้ว ขอเชิญทุกคนไปหาคำตอบกันได้เลย


เรียนชกมวย

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าการเรียนชกมวยเป็นการออกกำลังกายที่เปิดโอกาสให้ผู้ฝึกได้ใช้อวัยวะแทบจะทุกส่วนของร่างกายในการโจมตีคู่ต่อสู้ ประกอบกับรูปแบบการฝึกที่เน้นการออกกำลังกายแบบหนักสลับกับเบาเป็นระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 60-90 นาที จึงทำให้ผู้ที่อยากลดน้ำหนักสามารถเบิร์นแคลอรีได้มากถึง 800-1200 Kcal แม้การเรียนชกมวยจะช่วยให้ผู้ฝึกลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยปัจจัยที่มวยไทยเป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง ดังนั้นก่อนเริ่มเรียน ทางที่ดีผู้ฝึกควรวอร์มร่างกายของตัวเองก่อนให้พร้อมเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการเรียนชกมวย

ดังที่บอกไปในข้างต้นว่ารูปแบบการฝึกชกมวยจะเน้นไปที่การออกกำลังกายแบบหนักสลับกับเบา ซึ่งการออกกำลังกายเช่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การเผาผลาญไขมันหลังการฝึกเสร็จสิ้น (After burn) โดยขั้นตอนการเบิร์นจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อร่างกายดึงแหล่งพลังงานในตัว เช่น คาร์โบไฮเดรต ไปใช้จนหมดก่อน แล้วจึงค่อยนำไขมันที่สะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมาเผาผลาญต่อ ซึ่ง Afterburn สามารถดำเนินไปได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 48 ชั่วโมง

พิลาทิส

ต่อมาเราอยากจะขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับพิลาทีสหรือการออกกำลังกายที่เน้นไปที่การฝึกให้ผู้ออกกำลังกายได้พัฒนาทั้งสมาธิและสมรรถภาพร่างกายไปในเวลาเดียวกัน โดยหัวใจสำคัญของพิลาทีสได้แก่การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างนุ่มนวล เป็นธรรมชาติ แม้พิลาทีสจะไม่มีความเข้มข้นสูงเหมือนกับการเรียนชกมวย แต่ผลลัพธ์ของการฝึกพิลาทีสเป็นประจำคือการเพิ่มขีดจำกัดความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ รวมไปถึงความสามารถในการใช้สมาธิควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ดีขึ้นเพิ่มความผ่อนคลาย แถมยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บที่ไม่สูงมากนัก

ก่อนจากกันไปเราอยากจะขอชี้แจงให้ทุกคนได้เข้าใจกันก่อนว่าทั้งการเรียนชกมวยและพิลาทีสต่างก็มีข้อดีที่เอื้อให้ผู้ฝึกสามารถลดน้ำหนักได้ตามที่ตัวเองต้องการเหมือนกัน แต่จุดที่แตกต่างกันระหว่างการออกกำลังกายทั้งสองประเภทนี้ได้แก่รูปแบบการฝึก หากใครที่เป็นสายบู๊ล้างผลาญ แน่นอนว่ารูปแบบการออกกำลังกายที่สามารถตอบสนองความต้องการของตัวเองได้ดีกว่าคงหนีไม่พ้นมวยไทย แต่สำหรับใครที่อยากพัฒนาขีดจำกัดของตัวเองไปพร้อมๆ กับการฝึกสมาธิ พิลาทีสน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า


 

 

Comments

Share Tweet Line