เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จัดยิ่งใหญ่ Social Business Day 2019 ที่ไทยครั้งแรก

เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จัดยิ่งใหญ่ Social Business Day 2019  ที่ไทยครั้งแรก

ศ.มูฮัมหมัด ยูนุส เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จัดยิ่งใหญ่ Social Business Day 2019 ที่ประเทศไทยครั้งแรก ภายใต้แนวคิด “Making Money is Happiness,Making Other People Happy is Super Happiness” สะท้อนความสุขที่แท้จริง รวมผู้นำธุรกิจเพื่อสังคมกว่า 60 ประเทศทั่วโลกร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง พร้อมปลุกพลังคนรุ่นใหม่สร้างยุคศิวิไลซ์ใหม่(New Civilization)วัดความสำเร็จด้วยการสร้างประโยชน์ให้สังคม ภาคธุรกิจไทยร่วมสนับสนุนแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคม ซีอีโอเครือซีพีประกาศเจตนารมณ์ร่วมขับเคลื่อน หวังช่วยแก้ปัญหาสังคม ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน


ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส(Muhammad Yunus)นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล ผู้ริเริ่มแนวคิด Social Business หรือธุรกิจเพื่อสังคม   และ  Yunus Foundation ได้ร่วมกับ ศูนย์ยูนุสเซ็นเตอร์ ณ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Yunus Center at AIT) ศูนย์ยูนุสเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ Thailand Social Business Initiative:TSBI จัดการประชุมระดับโลก Social Business Day 2019 ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และครั้งที่ 9 ของโลก ระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย. 2562  ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดชุมชนธุรกิจเพื่อสังคมขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก และเพื่อเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนแนวคิด “Social Business” ให้เป็นต้นแบบในการช่วยแก้ปัญหาสังคม หวังตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน  โดยในปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Making Money is Happiness, Making Other People Happy is Super Happiness”(การสร้างรายได้คือความสุข แต่การสร้างความสุขให้คนอื่นคือความสุขที่แท้จริง)สะท้อนและตอกย้ำให้ตระหนักถึงความสุขที่แท้จริง พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะร่วมกันแก้ปัญหาที่เป็นประเด็นสำคัญของโลกใน 4 ด้าน ได้แก่  1. ธนาคารและไมโครไฟแนนซ์(Banking&Microfinance) 2.มลพิษและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Pollution&Climate Change) 3.ขยะพลาสติกและเศรษฐกิจหมุนเวียน(Plastic Waste&Circular Economy) และ 4.ธุรกิจเพื่อสังคมและการกีฬา(Social Business&Sports) โดยมีองค์กรภาคเอกชนร่วมให้การสนับสนุน อาทิ C asean บางจาก และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเครือฯเชื่อมั่นในแนวคิด Social Business ที่จะช่วยแก้ปัญหาสังคมได้และทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ

 

ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส (Muhammad Yunus) เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการรวมตัวของชุมชนธุรกิจเพื่อสังคมจากนานาประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจที่ชุมชนธุรกิจเพื่อสังคมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเชื่อมั่นว่าธุรกิจเพื่อสังคมจะนำความเปลี่ยนแปลงสู่สังคมโลก โดยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ที่กรุงปารีสในปี2024 นับเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจเพื่อสังคมจะเข้าไปสร้างปรากฏการณ์ใหม่ผ่านพลังของกีฬา พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมโลก ด้วยการร่วมกันสร้างความเจริญใหม่ หรือ New Civilization ที่ไม่ได้วัดความสำเร็จด้วยสินทรัพย์ หรือ เงินตรา เหมือนในอดีต แต่ความสำเร็จนั้น คือการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน สังคม และมวลมนุษยชาติ ซึ่งจะสร้างคุณค่าและเป็นความสุขที่แท้จริง

“ประเทศไทยจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของธุรกิจเพื่อสังคม และเป็นศูนย์กลางอันดับต้นๆของการขับเคลื่อนเรื่อง Social Business ซึ่งการจัดงานที่ประเทศไทยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรชั้นนำของไทย ทั้ง C-asean และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ผู้บริหารมีความกระตือรือร้นที่จะผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่”ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุสกล่าว

ในการนี้นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับเกียรติขึ้นกล่าว Closing Ceremony ว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย ที่มีธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยกว่า 40 แห่ง ตระหนักถึงความท้าทายในการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยเครือซีพีได้ร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน และมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษาในประเทศไทย เพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วย ถึงแม้การประสบความสำเร็จในธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องเป็นองค์กรที่ดีมีจริยธรรมและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ ที่สร้างประโยชน์ให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุสได้พิสูจน์มาแล้ว และเครือซีพีมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ควบคู่กับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน

“ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายการเยียวยาปัญหาของสังคมโลกร่วมกันได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป”นายศุภชัยกล่าว

วันเดียวกันนี้ นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์  ได้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ : “ความท้าทายของธุรกิจเพื่อสังคม” กล่าวว่า ธุรกิจเพื่อสังคมเป็นโมเดลเพื่อหาทางออกในการช่วยแก้ปัญหาสังคม โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นแก้ปัญหาที่เป็น pain point ของสังคมยึดแนวทางการรับรู้และความเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาในระดับสังคมอย่างยั่งยืน เช่น เครือฯได้ส่งเสริมการปลูกกาแฟแทนการปลูกข้าวโพดให้คนในชุมชนทางภาคเหนือ เป็นต้น การทำธุรกิจเพื่อสังคมจะต้องเป็นได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม

ทั้งนี้ภายในงานเสวนาได้มีวิทยากรเข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความท้าทายในการทำธุรกิจเพื่อสังคม ได้แก่  Parveen Mahmud (Grameen Telecom Trust), Luciano Gurgel (YSB Brazil),Eric Lesueur(VEOLIA) และ Sohel Ahmed (Grameen Shakti) ซึ่งทำให้แนวคิดการทำธุรกิจเพื่อสังคมและสร้างแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ยั่งยืน

นอกจากนี้ในงานวันแรก(28มิถุนายน 2562)ได้จัดให้มีการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆกับ Yunus Thailand ซึ่งดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ผู้ช่วยบริหาร สำนักประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นตัวแทนเครือฯร่วมแสดงจุดยืนในการขับเคลื่อนเรื่องธุรกิจเพื่อสังคมในอนาคต ผ่านแพลตฟอร์ม Corporate Action Tank

สำหรับบรรยากาศบนเวทีการประชุมระดับโลก Social Business Day 2019 ได้จัดให้มีการประชุมกลุ่มย่อย (Breakout Session) 9 กลุ่ม การประชุมกลุ่มประเทศ (Country Forum) 7 กลุ่ม การประชุมกลุ่มเยาวชน (Youth Workshop) 6 กลุ่ม และการประชุมคู่ขนานสำหรับภาคการศึกษา (Academia Conference) ในประเด็นเกี่ยวกับ การศึกษา เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร สุขภาวะ การเงิน สิ่งแวดล้อม พลังงานสีเขียว ศิลปวัฒนธรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ธุรกิจเพื่อสังคมกับการกีฬา กิจการขนาดใหญ่กับธุรกิจเพื่อสังคม เทคโนโลยีกับธุรกิจเพื่อสังคม ภาวะผู้นำเยาวชนกับธุรกิจเพื่อสังคม สินเชื่อไมโครไฟแนนซ์กับธุรกิจเพื่อสังคม ฯลฯ

 

Comments

Share Tweet Line