“Red Hat Open Innovation Labs ช่วยให้องค์กรในเอเชียแปซิฟิก ประสบผลสำเร็จทางธุรกิจได้เร็วขึ้น"

“Red Hat Open Innovation Labs ช่วยให้องค์กรในเอเชียแปซิฟิก ประสบผลสำเร็จทางธุรกิจได้เร็วขึ้น

เร้ดแฮท อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นโอเพ่นซอร์ส เปิดเผยข้อมูลว่าองค์กรในเอเชียแปซิฟิกหันมาใช้นวัตกรรมรูปแบบเปิดมากขึ้น เพื่อเร่งให้เกิดผลลัพธ์ต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจได้เร็วขึ้น เห็นได้จากการที่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ เช่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ เข้าร่วมโปรแกรม Red Hat Open Innovation Labs 


Red Hat Open Innovation Labs เปิดตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเมื่อปี 2560 เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อมอบสภาพแวดล้อมในลักษณะที่มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเสมือนนั่งทำงานอยู่ด้วยกันกับผู้เชี่ยวชาญและนักพัฒนาท่านอื่นๆ และมีประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งสภาพแวดล้อมลักษณะนี้จะช่วยให้เกิดการพัฒนา และการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างองค์กรที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ประกอบด้วย

สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ส่งผลให้องค์กรต่างต้องเร่งพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวของธุรกิจที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง และเพื่อไม่ให้ล้าหลังในอุตสาหกรรมของตน Red Hat Open Innovation Labs ช่วยให้องค์กรสามารถทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของ Red Hat เพื่อแก้ไขปัญหา และตอบโจทย์ความท้าทายทางธุรกิจในรูปแบบเร่งรัดด้วยเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์ส ภายในระยะเวลาตั้งแต่ 1-3 เดือน ผู้เข้าร่วมโครงการจะสามารถดำเนินงานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบภายในสถานที่จริงของ Red Hat labs แบบผ่านทางPop-up lab หรือแม้แต่ในสำนักงานของลูกค้าเอง

ประสบการณ์ระหว่างการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดนี้เอง ที่จะทำให้ลูกค้าทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ตรงในเรื่องของการเลือกใช้แนวทางในการพัฒนาด้านต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว และรู้ถึงวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันของนักพัฒนาโปรแกรม และคนที่นำโปรแกรมไปใช้งาน (DevOps) ในการแก้ปัญหาเดิมๆ ที่มีมานาน หรือจัดการความท้าทายใหม่ๆ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบคลาวด์-เนทีฟ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติของอินเดียเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ไม่เพียงแค่ปรับปรุงแอปพลิเคชั่นสำหรับ IPO แบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ทันสมัยขึ้นได้ในระหว่างการเข้าร่วมโปรแกรมเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับใช้กลยุทธ์ DevOps ที่ช่วยให้สามารถนำเสนอบริการรูปแบบใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Fukuoka Financial Group ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้นำ Red Hat Innovation Labs มาปรับใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันทางธุรกิจ ด้วยการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการต่อยอดและพัฒนานวัตกรรมให้แก่พนักงานขององค์กร

ลูกค้าทุกรายยังจะได้รู้เห็นและยอมรับด้วยตนเองว่า หลักการและวัฒนธรรมแบบเปิดต่างๆ ช่วยเร่งให้เกิดนวัตกรรมได้อย่างไร ผ่าน Red Hat Open Innovation Labs เช่น กรณีของ Heritage Bank ทีมงานของธนาคารได้เรียนรู้การนำหลักการของโอเพ่นซอร์สไปใช้ผสานการทำงานร่วมกับทีมต่างๆ ที่มีความรับผิดชอบแตกต่างกัน ได้เรียนรู้เทคโนโลยีและกระบวนการต่างๆ ระหว่างที่ทำงานร่วมกัน ปัจจุบันธนาคารจึงสามารถสนองตอบต่อความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างรวดเร็ว และมอบประสบการณ์ที่ดีมากขึ้นให้ลูกค้า

คำกล่าวสนับสนุน

นายจอห์น อัลเลซโซ, รองประธานอาวุโส และ ผู้จัดการทั่วไปของการบริการทั่วโลก, Red Hat

“องค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่างเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการนำนวัตกรรมมาปรับใช้ให้เข้ากับ DNA ขององค์กร ซึ่งจะช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว พร้อมต่อกรกับความท้าทายในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่สามารถช่วยให้องค์กรต่างๆ นำแนวทางการทำงานระบบเปิดของเรา ไปใช้สร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพสูงและบริหารจัดการงานต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจจัดการกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างคล่องตัวและคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่มีเข้ามาได้อย่างทันท่วงที”

นายโคจิ โยโกตะ, ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่บริหาร, Fukuoka Financial Group, Inc

“กระบวนการพัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบดั้งเดิมและการขาดทักษะของพนักงานในองค์กร เป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเราให้ไม่สามารถคิดค้นนวัตกรรมให้ได้เร็วพอที่จะทันหรือล้ำหน้าคู่แข่ง และไม่ทันต่อความต้องการต่างๆ ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เมื่อเราเข้าร่วมโปรแกรม Red Hat Open Innovation Labs เราได้เข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมการทำงาน ที่เป็นนวัตกรรมแบบเปิด และการพัฒนาที่ทำได้อย่างคล่องตัว ซึ่งช่วยให้เราสามารถ เพิ่มมูลค่าทางธุรกิจและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง”

นายเวนย์ มาร์ชานท์, ซีไอโอ, Heritage Bank

“ลักษณะการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดใน Red Hat Open Innovation Labs เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ธุรกิจของเราเปลี่ยนแปลง โดยช่วยให้เราได้เข้าไปร่วมอยู่ในวัฒนธรรมการทำงานที่เป็นนวัตกรรม การใช้เครื่องมือด้านโอเพ่นซอร์ส มาเสริมสมรรถนะให้ทีมต่างๆ ทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายเดียวกันได้ ช่วยให้เราคงความสามารถด้านนวัตกรรม และความสามารถในการนำเสนอบริการใหม่ต่างๆ ซึ่งสามารถเพิ่มประสบการณ์ที่ดี ให้กับลูกค้าได้ดีขึ้น”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ติดต่อ Red Hat

Comments

Share Tweet Line