แพทย์ยก 5 เหตุผล ที่คนเราไม่ควรกินหวานเกิน ชี้ เสี่ยงสารพัดโรค

นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่าความหวานจากน้ำตาลเป็นสิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ ไม่ใช่เพราะติดอร่อยแต่ร่างกายเราถูกธรรมชาติสร้างมาให้ “รักหวาน” จึงทำให้น้ำตาลเป็นสารอาหารที่ถูกบริโภคเป็นอันดับต้นๆ คนเรายุคนี้ไม่ได้ต้องการพลังงานจากน้ำตาลมากดังเช่นยุคโบราณด้วยเหตุผล 2 ข้อต่อไปนี้ ส่วนใหญ่ทำงานนั่งโต๊ะหรือไม่ได้ใช้พลังงานมากเหมือนยุคหินที่ต้องล่าสัตว์ น้ำตาลในปัจจุบันอยู่ในรูปที่ผ่านกระบวนการมาจนดูดซึมเข้าร่างกายได้เร็วมาก เราอยู่ในยุคที่ น้ำตาลรอบตัวจึงทำให้เกิดเสี่ยงโรคจากน้ำตาลล้น ซึ่งคนทั่วไปอาจคิดว่ามีแค่โรคอ้วนหรือชวนป่วยด้วยเบาหวานเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วยังมีความเสี่ยงอีกหลายเรื่องที่มารุมเร้าอย่างน่าเศร้า

นายแพทย์กฤษดา ได้หยิบยก เรื่องราวความเสี่ยงของการบริโภคน้ำตาลให้ว่า ประกอบไปด้วย 1.เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ มีหลักฐานจากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาหารที่น้ำตาลมาก นำไปสู่โรคอ้วน การอักเสบในร่างกาย ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูงและความดันสูงซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังมีรายงานว่าเครื่องดื่มหวานจากน้ำตาลนั้นเชื่อมโยงกับโรคหลอดเลือดแข็งตีบ 2. ทำให้เสี่ยงสิว มีรายงานว่าอาหารและเครื่องดื่มที่หวานนั้นมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงเกิดสิวที่มากขึ้น ด้วยกลไกที่น่ารู้คือน้ำตาลในเลือดไปทำให้เพิ่มระดับฮอร์โมนอินสุลินซึ่งนั่นทำให้ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนสูงขึ้นทำให้มีการสร้างน้ำมันและการอักเสบอันนำไปสู่ “สิว” ดังการศึกษาในวัยรุ่น 2,300 รายที่ดื่มเครื่องดื่มมีน้ำตาลบ่อยครั้งพบว่าเพิ่มความเสี่ยงสิวขึ้นถึง 30%

3. อาจเพิ่มเสี่ยงมะเร็ง ความหวานกับมะเร็งเกี่ยวกันอย่างไร ทั้งนี้ต้องไม่อย่าลืมว่าน้ำตาลที่มากไปนำไปสู่โรคอ้วนและทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย อีกทั้งยังทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินสุลิน ดังการศึกษาใหญ่ที่ทำในคน 430,000 รายพบว่าการเพิ่มน้ำตาลในการบริโภคนั้นเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งหลอดอาหาร,เยื่อหุ้มปอดและลำไส้เล็ก 4.ทำให้แก่เร็วถึงข้างในเซลล์ เริ่มจากผิวที่แก่ได้ 360 องศาจากน้ำตาลไปทำให้เกิด “ขยะแก่ (Advanced glycation end products,AGEs)” เป็นตัวการทำผิวแก่ยับเพราะมันไปทำลาย “คอลลาเจน” และ “อีลาสติน” อันเป็นตัวทำให้ผิวดูเต่งตึงยืดหยุ่นได้แบบหนุ่มสาว แต่นั่นก็ยังไม่ร้ายเท่ากับที่น้ำตาลซึมลึกเข้าไปทำพังถึงในระดับดีเอ็นเอของเซลล์ที่ทำให้ส่วนหางโครโมโซมที่เรียกว่า “เทโลเมียร์” สั้นลงซึ่งเท่ากับเร่งความแก่ให้เร็วขึ้นตั้งแต่ภายในเซลล์ร่างกายเลยทีเดียว 

5. อาจเพิ่มความเสี่ยงซึมเศร้า เราพูดถึงผลของน้ำตาลทางกายมามากแล้ว เรื่องของน้ำตาลที่ทำร้ายจิตใจ ควรต้องเล่าบ้างไม่ให้เหงา เพราะหลายครั้งที่เราเชื่อว่ากินหวานแล้วทำให้ อารมณ์ดี ซึ่งที่จริงแล้วมีโอกาสเกิดได้เพราะนักวิจัยพบว่าน้ำตาลในเลือดที่เปลี่ยนแปลงจะไปรบกวนสารสื่อประสาทและทำให้เกิดการอักเสบอันนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ ดังการศึกษาในสตรี 69,000 รายที่บริโภคน้ำตาลสูงมากพบว่ามีความเสี่ยงซึมเศร้าสูงกว่ากลุ่มอ่อนหวานอย่างมีนัยสำคัญ