แชฟฟ์เลอร์จับมือมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ผนึกกำลังดันโซลูชั่น e - F@ctory

แชฟฟ์เลอร์จับมือมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ผนึกกำลังดันโซลูชั่น e - F@ctory

บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่น และบริษัท แชฟฟ์เลอร์ เทคโนโลยี AG และ KG จำกัด ผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมระดับโลกประกาศความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ระดับโลกอย่างเป็นทางการในฐานะส่วนหนึ่งของเครือข่ายพันธมิตร (e-F@ctory Alliance Network) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด e-F@ctory ของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่นที่สนับสนุนบริษัทที่มีมาตรการในการปรับเปลี่ยนการทำงานไปสู่ระบบดิจิทัล เช่น การรวมการทำงานเครื่องจักรและข้อมูลโรงงานเข้ากับระบบการผลิต (MES-Manufacturing Execution Systems) และระบบวางแผนทรัพยากรการผลิตในองค์กร (ERP-Enterprise Resource Planning Systems)         


ภาพจำลองของอุตสาหกรรม 4.0 นั้นโดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และมีความยืดหยุ่นในการผลิตสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และระบบอุตสาหกรรม 4.0  ที่ประกอบด้วยส่วนประกอบ และเครื่องจักรที่ทำงานเชื่อมต่อกันด้วยระบบดิจิทัล

ดร. สเตฟาน สปินด์เลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายอุตสาหกรรม บริษัท แชฟฟ์เลอร์ AG กล่าวว่า “การนำเสนอโซลูชั่นอุตสาหกรรม 4.0 ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าได้นั้น  ต้องอาศัยความร่วมมือจากบริษัทต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน เราเชื่อมั่นว่าด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และความรู้ด้านระบบของแชฟฟ์เลอร์ และมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่ร่วมเป็นพันธมิตรด้านยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ จะทำให้แชฟฟ์เลอร์นำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าและตลาดชิ้นส่วนยานยนต์และอุตสาหกรรมได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิ้นส่วนที่ครบวงจรได้”

นายโนริยูกิ ชิมิซุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโรงงานอัตโนมัติ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการร่วมกันในหลายประเทศ ทั้งในยุโรปและเอเชีย ตอนนี้เราพร้อมที่จะขยายความร่วมมือในระดับโลกร่วมกับแชฟฟ์เลอร์”

บริษัท แชฟฟ์เลอร์ และมิตซูบิชิ อีเล็คทริค จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโซลูชั่นของอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะช่วยลดการหยุดทำงานของเครื่องจักร และช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับลูกค้า ตัวอย่างเช่น เครื่อง SLMP โปรโตคอล ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบสภาพที่ใช้ในแชฟฟ์เลอร์โดยมีเซนเซอร์สื่อสารกับโปรแกรมควบคุมของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่ส่งสัญญาณกำหนดค่าคุณลักษณะได้ จากนั้นโปรแกรมควบคุมระบบ (PLC) จะประมวลผลข้อมูลในรูปแบบข้อความธรรมดาและแสดงขึ้นบนหน้าจอ ในส่วนของการรวมข้อมูลที่เพิ่มเติมนั้นจะช่วยให้ระบบตรวจสอบสภาพเชื่อมต่อกับโปรแกรมควบคุมระบบ (PLC) ของโรงงานที่เกี่ยวข้องได้ โดยผ่านเครือข่ายสายเคเบิล และโปรโตคอล Modbus

นอกจากนี้ บริษัท แชฟฟ์เลอร์ยังมีส่วนช่วยสร้างแนวคิดการรวมผลิตภัณฑ์เมคคาทรอนิกส์ ระบบตรวจสอบสภาพการทำงาน และบริการดิจิทัลเพื่อสร้างแอพพลิเคชั่นโซลูชั่น 4.0 เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการสร้างผลิตภัณฑ์ และบริการที่สามารถกำหนดได้เอง โดยมุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพของระบบโดยรวมทั้งหมด

บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่นจะเน้นนำเสนอระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีการประมวลผลที่หลากหลาย รวมถึงโปรแกรมควบคุมระบบ (PLC) อินเวอร์เตอร์ หุ่นยนต์ เซอร์โวไดรฟ์ และเอชเอ็มไอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพให้กับโรงงานได้

ล่าสุด ผู้บริหารระดับสูง บริษัท แชฟฟ์เลอร์ และบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่น ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการ และนำเสนอโซลูชั่นอุตสาหกรรม 4.0 ร่วมกันในงานฮันโนเวอร์เมสเซ ประจำปี 2562 โดยได้รับเกียรติจาก นายฮาร์ทมุท พัทซ์ ประธานโรงงานอัตโนมัติ–กลุ่มธุรกิจภูมิภาคยุโรป บริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่น (จากซ้ายคนที่ 1) ดร. สเตฟาน สปินด์เลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายอุตสาหกรรม บริษัท แชฟฟ์เลอร์ AG (คนที่ 2) นายรอลิ ฮันติไคเนน หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรม 4.0 บริษัท แชฟฟ์เลอร์ (คนที่ 3)  นายฮาจิเมะ สุกิยามะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับอุปกรณ์ กลุ่มระบบโรงงานอัตโนมัติ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่น (คนที่ 4) และนายคาซุอะกิ นาคามูระ วิศวกรฝ่ายขายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม บริษัท แชฟฟ์เลอร์ (คนที่ 5)  

Comments

Share Tweet Line