สวทช. จับมือ ASEAN Centre for Energy สร้างเครือข่ายวิจัยพัฒนาพลังงานทดแทน

สวทช. จับมือ ASEAN Centre for Energy สร้างเครือข่ายวิจัยพัฒนาพลังงานทดแทน

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงนามร่วมกับ ศูนย์พลังงานอาเซียน (ASEAN Centre for Energy : ACE) ในด้านการศึกษา การวิจัย และการพัฒนาชุมชน (Education, Research, and Community Development) เพื่อสร้างเครือข่ายการวิจัยพัฒนาพลังงานทดแทน เชื้อเพลิงชีวภาพ และส่งเสริมผลักดันให้มีการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเชิงพาณิชย์ในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยมี ดร.อารี ธนบุญสมบัติ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เป็นผู้แทน สวทช. และ Dr.Nuki Agya Utama ผู้อำนวยการ ACE ร่วมลงนาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ (5 ก.ย.) ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล กรุงเทพฯ

ดร.อารี ธนบุญสมบัติ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า จากการประชุมรัฐมนตรีด้านพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 33 ในช่วงเดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ที่ประชุมได้เห็นชอบเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในอาเซียนให้เท่ากับร้อยละ 23 ของการจัดหาพลังงานขั้นต้นภายในปี ค.ศ. 2025 และเห็นชอบเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการสร้างแรงจูงใจด้านการลงทุนโครงการพลังงานทดแทน การเสริมสร้างเครือข่ายด้านการวิจัยและพัฒนาพลังงานทดแทนและเชื้อเพลิงชีวภาพ ตลอดจนผลักดันให้มีการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเชิงพาณิชย์ในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ในฐานะหน่วยงานผู้ประสานงานหลักเครือข่ายพลังงานทดแทนของประเทศไทย ได้เสนอต่อที่ประชุมครั้งนั้นว่า ประเทศไทยมีการใช้พลังงานทดแทนประเภทเชื้อเพลิงชีวภาพในเชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวาง อีกทั้งมีหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทน โดยเฉพาะเชื้อเพลิงชีวภาพ จึงเห็นสมควรผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยเป็นหน่วยงานระดับภูมิภาคด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเชื้อเพลิงชีวภาพ และเห็นว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมและมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนรวมถึงเชื้อเพลิงชีวภาพด้วย




“สวทช. มีผลงานด้านการศึกษาวิจัยและพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผ่านมาทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ มากกว่า 10 โครงการ เช่น โครงการสนับสนุนการเพิ่มสัดส่วนการใช้น้ำมันไบโอดีเซลให้สูงขึ้น โดยใช้กระบวนการ H-FAME (partially Hydrogenated Fatty Acid Methyl Ester) ร่วมกับ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยมีความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตไบโอดีเซลเชิงพาณิชย์แล้ว 2 ราย เป็นต้น จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกันในครั้งนี้ โดยกรอบความร่วมมือระหว่าง สวทช. และ ACE ครั้งนี้ มีกิจกรรมความร่วมมือกันหลายด้าน ประกอบด้วย การวิจัยและเผยแพร่ผลงานวิจัย กิจกรรมการพัฒนาชุมชน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษา เช่น สนับสนุนโครงการวิจัยและการแลกเปลี่ยนระยะสั้นระหว่างสถาบันสำหรับนักเรียนนักศึกษา การจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการและฝึกอบรมเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน โดยแผนการดำเนินงานหลังจากการลงนามครั้งนี้ คือการจัดทำ Roadmap พร้อมกรอบความร่วมมือระหว่าง สวทช. และหน่วยงานวิจัยในอาเซียน หรือองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (IRENA) ตลอดจนช่วยผลักดันให้เกิดความร่วมมือในกลุ่มอาเซียนและ Dialogue partners หรือคู่เจรจาเฉพาะด้านอาเซียนต่อไป” ดร.อารี ธนบุญสมบัติ กล่าว

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line