นศ.บริหารธุรกิจ จัดเต็ม ‘มาร์เก็ตเดย์ 2019’ ขนทัพความรู้ ต่อยอดธุรกิจ ปีที่ 3

นศ.บริหารธุรกิจ จัดเต็ม ‘มาร์เก็ตเดย์ 2019’  ขนทัพความรู้ ต่อยอดธุรกิจ ปีที่ 3

นักศึกษาสาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี วางแผนเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ แสดงผลงานการลงพื้นที่ออกไปช่วยวิสาหกิจชุมชนและสถานประกอบการ เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจ ในงานมาร์เก็ตติ้งเดย์ 2019


หนุ่มสาวจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี หรือชาวบัวสววรค์ นักศึกษาสาขาวิชาการตลาด วางแผนแบ่งงาน เพื่อเตรียมงานมาร์เก็ตติ้งเดย์ 2019 โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ตามรูปแบบการเรียนการสอนในลักษณะ Work-Integrated Learning หรือ WIL. ผสมผสานกับการบริการวิชาการ ที่ให้นักศึกษาเรียนรู้และลงพื้นที่ศึกษาโจทย์จริง ปัญหาจริงจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือสถานประกอบการ ศึกษาปัญหาทางธุรกิจ ใช้ความรู้ที่เรียนมาวิเคราะห์และนำเสนอเพื่อแก้ปัญหาการตลาดด้านต่าง ๆ ให้กับธุรกิจ ซึ่งจะมีกำหนดจัดขึ้นใน 21 ต.ค. 2562 นี้ ณ หอประชุมใหญ่ มทร.ธัญบุรี

ลองฟังเสียงของตัวแทนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการตลาดในแต่ละกลุ่ม เริ่มต้นคนแรกที่“เบนซ์” พรชิตา วันเนาว์ เล่าว่าตนและเพื่อนร่วมกลุ่มในทีมอีก 12 ชีวิต ลงพื้นที่จับธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนม เบเกอรี่ ‘วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสหกรณ์ทำขนมบุ่งเข้’ อ.ปากพลี จ.นครนายก ซึ่งประสบปัญหายอดขาย ขาดช่องทางการขายออนไลน์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเข้าไปวางแผนและจัดทำแผนธุรกิจ สร้างความตระหนักรู้และขยายช่องทางการขายสู่ออนไลน์ เปิดแฟนเพจ ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และสร้างการบอกต่อผ่านทางนามบัตรที่แนบไปให้ลูกค้าในแต่ละครั้งที่ซื้อ เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อ ขณะเดียวกันยังนำเสนอการออกแบบโลโก้ เพื่อการสื่อสารแบรนด์ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับยุคสมัย โดยคงไว้ซึ่งความดั้งเดิมที่ดำเนินมากว่า 13 ปี ที่สำคัญยังเลือกคุกกี้มาแปลงโฉมสู่รูปลักษณ์ใหม่ เพื่อจะนำมาแสดงในวันงานมาร์เก็ตติ้งเดย์ด้วย “ดีใจที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกวิสาหกิจชุมชน และนำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้ ทำให้เกิดประสบการณ์ด้านการตลาด เห็นปัญหาและได้แก้ปัญหาจริง”  

ส่วน “โอม” พงศธร พรเงิน อธิบายถึงการไปช่วยแก้ปัญหา ‘เอสเอ็มอี หมูแดดเดียว’ มีนบุรี กทม. ร่วมศึกษาปัญหาธุรกิจที่ผู้ประกอบการกำลังประสบอยู่ พบว่าเกิดความไม่แตกต่างทางธุรกิจ จึงคิดที่จะสร้างแบรนด์ใหม่ เริ่มต้นวางแผนกับเจ้าของเอสเอ็มอีด้วยการตั้งแต่ชื่อธุรกิจใหม่ที่ว่า ‘หมูเบิร์นแดด’ และร่วมกันคิดสูตรพริกไทยดำขึ้นใหม่อีกหนึ่งสูตร ที่ต่างจากสูตรต้นตำรับเดิม เพิ่มกลิ่นไอความเป็นสุขภาพเข้ามาเสริม และแนะนำบรรจุภัณฑ์ใหม่ด้วยถุงซิปล็อค “จุดร่วมระหว่างเจ้าของธุรกิจและทีมของตนเองที่เกิดขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนและลงมือทำร่วมกัน เชื่อว่าจะนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจที่ดีกว่าเดิม” และบอกอีกด้วยว่า “ส่วนของหมูที่อร่อยและเหมาะกับการเลือกมาทำหมูแดดเดียว คือส่วนสะโพกหน้าและสันคอ ซึ่งเป็นความลับในความอร่อยของหมูเบิร์นแดด”

ขณะที่ “แก้ม” วีรภทรา สิงห์ลอ ขอเป็นตัวแทนกลุ่มเพื่อแชร์ประสบการณ์จากการลงพื้นที่ว่า “โจทย์จริงจากการลงพื้นที่ ช่วยกระตุ้นให้ฝึกคิดแก้ปัญหา สอนให้รู้จักการทำงานร่วมกันเป็นทีม ภายใต้การนำสิ่งที่เรียนมาช่วยหาค้นคำตอบในเชิงธุรกิจ ซึ่งมีอาจารย์เป็นโค้ช ทำให้เกิดการเรียนรู้เชิงลึก เกิดประสบการณ์การทำงานก่อนจะสำเร็จการศึกษา” และกลุ่มของตนนั้นเจาะไปที่ธุรกิจ ‘M MELON FARM’ ฟาร์มเมลอน คลอง 3 จ.ปทุมธานี ช่วยธุรกิจในการคิดค้น พัฒนาและแปรรูปสินค้าให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น เช่น การทำแยมเมลอน และการทำน้ำเมลอนสกัด ซึ่งคาดว่าความรู้จากกลุ่มตนนี้จะช่วยสร้างความแปลกใหม่สร้างการรับรู้ และทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ “ขอบคุณเจ้าของฟาร์มที่ให้โอกาสในการเข้าไปเรียนรู้ครั้งนี้”

“กิ๊ก” ปาริชาติ กลิ่นสุคนธ์ เล่าว่าได้ลงพื้นที่ ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ณ สวนเราเกษตรอินทรีย์ เจาะกลุ่มผักออแกนิค คิดค้นนำเสนอร่วมกับเจ้าของสวน ซึ่งเดิมปลูกผักทั้งกรีนโอค เรดโอค คอสและบัตเตอร์เฮด โดยนำผักสุขภาพดังกล่าวไปแปรรูปด้วยกรรมวิธีที่ง่าย คงความอร่อยไว้เช่นเดิม เพื่อไม่ให้เสียรสชาติ ด้วยการแปรรูปสู่สลัดโรลและสลัดซูชิ จากการทดลองตลาดพบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และสร้างเป็นข้อเสนอแนะสำหรับเป็นแนวทางแก่สวนเราเกษตรอินทรีย์ต่อไป “การแปรรูปผักดังกล่าวนี้ ทำให้สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผัก สร้างความสนใจจากผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และเพิ่มความสะดวกในการรับประทาน สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างเร่งรีบของผู้คนในยุคดิจิทัล”

ปิดท้ายด้วย “ฟ้า” ศิริพัชญา เมืองสุวรรณ์ ที่ไปช่วยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพผลิตรองเท้าหนังแท้ จ.ปทุมธานี แบรนด์ ‘TOP PLATE’ ซึ่งอยากขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค จากการลงพื้นที่ สัมภาษณ์พูดคุยแม้ว่าจะดำเนินธุรกิจมานานถึง 20 กว่าปี สิ่งหนึ่งที่พบคือความคงเดิมของหน้าร้าน จึงนำเสนอการปรับร้านหน้าใหม่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ กระตุ้นความสนใจ และเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ ด้วยการนำเสนอเรื่องราวของร้าน วิธีการผลิตและการให้ความรู้เรื่องรองเท้า ซึ่งมุ่งไปที่ความรู้และความบันเทิง ผ่านข้อความและโพสต์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากแฟนเพจ “ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันวิสาหกิจชุมชน ได้ฝึกการวางกลยุทธ์การตลาด การเพิ่มช่องทางการขาย รวมถึงการนำเสนอเพื่อจัดแสดงสินค้า” และอยากให้เพื่อน ๆ นักศึกษาทุกคน ไม่เพียงแค่คณะบริหารธุรกิจอย่างเดียว ได้เข้ามาชมงาน มาดูแนวทางการประกอบธุรกิจ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการ และสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพของตนเองต่อไปได้

คาดการณ์กันว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้ จะทำให้ทั้งนักศึกษาและผู้ประกอบการได้เรียนรู้ร่วมกัน กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้ระบบการทำงานเป็นทีม สร้างประสบการณ์ทางธุรกิจ และเป็นการประยุกต์ความรู้ด้านการตลาดอย่างเป็นรูปธรรม จะสนุกหรรษาแค่ไหนพบกันในงานมาร์เก็ตติ้งเดย์ 2019

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line