La Mer ผนึกกำลัง School House จัดนิทรรศการเปิดประสาทสัมผัสสุดตระการตา ในแคมเปญ “Edge of the Sea”

La Mer ผนึกกำลัง School House จัดนิทรรศการเปิดประสาทสัมผัสสุดตระการตา ในแคมเปญ “Edge of the Sea”

แบรนด์สกินแคร์สุดหรูผนึกกำลังกับเอเจนซีผู้เชี่ยวชาญในวงการความงาม เพื่อเฉลิมฉลองให้กับมรดก ศิลปะ และนวัตกรรมของ La Mer ในนครเซี่ยงไฮ้ ภายใต้การจัดแสดงงานชุด "Edge of the Sea"

School House ครีเอทีฟเอเจนซีจากนิวยอร์กผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ ความสร้างสรรค์ และแนวคิดธุรกิจค้าปลีกที่เข้ามากำหนดมุมมองสำหรับบรรดาแบรนด์ความงามระดับโลก ได้จับมือกับ La Mer เพื่อเปิดนิทรรศการแสดงผลงานตามแคมเปญ "Edge of the Sea" ณ พิพิธภัณฑ์ Power Station of Art ในนครเซี่ยงไฮ้ โดยแคมเปญที่เต็มไปด้วยความสมจริงและเปิดทุกประสาทสัมผัสของผู้ชมนี้จะพาทุกท่านไปดื่มด่ำกับเรื่องราวใต้ท้องทะเลที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานและทรงพลัง รวมถึงบทบาทของทะเลในการค้นพบ เยียวยา และการระลึกถึง

School House เป็นหัวหอกในการออกแบบโครงการนี้ตั้งแต่คอนเซปต์งานไปจนถึงการจัดแสดงงาน โดยได้ร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ด้านการจัดไฟอย่าง Luciforma รวมถึงพาร์ทเนอร์ด้านโปรดักชันอย่าง APAX Group และผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคจาก Patten Studio เพื่อสร้างชีวิตชีวาให้กับแคมเปญการฉายภาพ 3 มิติของ La Mer อย่าง Edge of the Sea

"นี่เป็นการจัดแสดงงานระดับนานาชาติครั้งแรกที่ School House ได้มีโอกาสวางคอนเซปต์และดำเนินการ" Christopher Skinner ผู้ก่อตั้งและประธานของ School House กล่าว "สิ่งนี้ทำให้เราต้องใช้การคิดในเชิงกลยุทธ์ ประสบการณ์ด้านการค้าปลีก และการเล่าเรื่องของแบรนด์ในรูปแบบใหม่ เพื่อเจาะตลาดใหม่"


ด้วยการจัดแสดงงานภายใต้ผืนผ้าใบของ Power Station of Art (ที่จัดแสดงผลงานศิลปะ Shanghai Biennale) Edge of the Sea ได้ผสานแรงบันดาลใจจากพลวัตอันทรงพลังและนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์จากสองพลังเข้าด้วยกัน จากแสงแดดที่สาดแสงส่องประกายให้กับเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง จนถึงความประทับใจที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Max Huber มีต่อท้องฟ้าและทะเล ทางผู้จัดจึงได้เฉลิมฉลองให้กับผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่าง Creme de la Mer ผ่านการเล่าเรื่องด้วยผลงานศิลปะสุดตื่นตาตื่นใจ



ด้วยแรงบันดาลใจจากการผนึกกำลังของสองมุมมอง ผลงานจากช่างภาพสองพ่อลูกอย่าง Mario Sorrenti และ Gray Sorrenti จึงกลายมาเป็นหัวใจสำคัญในทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของงานในครั้งนี้ ด้วยพลังของคนสองรุ่นและมุมมองที่แตกต่างกัน ครอบครัว Sorrenti จึงได้จับภาพความเคลื่อนไหวและอิทธิพลที่ไม่มีที่สิ้นสุดของท้องทะเลและชายฝั่งจากจินตนาการของแต่ละคน ทั้งนี้ School House ได้แขวนวงแหวนเพื่อฉายผลงานของสองพ่อลูกบ้าน Sorrenti ซึ่งผู้เข้าชมสามารถเดินเข้ามาข้างใน เพื่อนั่งชมภาพและเสียงที่ปรากฏให้เห็นความทรงจำจากท้องทะเลของสองพ่อลูกได้แบบ 360 องศา

ทางผู้จัดได้เติมสีสันเพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับการจัดแสดงงานครั้งนี้ ผ่านสื่อดิจิทัลและการสัมผัส ซึ่งรวมถึงการดื่มด่ำและการมีปฏิสัมพันธ์ไปกับผลงานภายใต้ทางเดินที่จะนำไปสู่การค้นพบใหม่ ๆ โดยการจัดแสดงงานครั้งนี้ได้ผสานองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เรียบง่ายและทรงพลัง ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชมได้ดำดิ่งไปกับโลกของ La Mer

ตั้งแต่การทดลองของ Max Huber ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ในการสกัด Miracle Broth ราว 6,000 ครั้ง ไปจนถึงประสบการณ์ดิจิทัลที่เผยให้เห็นป่าสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลที่พริ้วไหวอย่างต่อเนื่อง และเกลียวคลื่นที่รังสรรค์ขึ้นจากผ้าไหม การจัดแสดงงาน Edge of the Sea จึงพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากการจัดแสดงงานครั้งนี้จะพาทุกท่านไปปีน ขุด และผจญภัยไปโดยปราศจากทิศทาง เพื่อค้นหาความสุขแห่งท้องทะเลและแผ่นดิน และค้นพบสิ่งต่าง ๆ ที่หาได้จากขอบจินตนาการของเราเท่านั้น

Edge of the Sea เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 9 ถึง 23 ตุลาคม ณ พิพิธภัณฑ์ Power Station of Art นครเซี่ยงไฮ้

School House มีสำนักงานอยู่ที่ 20 West ถนนหมายเลข 22 นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อที่อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.weareschoolhouse.com

ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราได้ทาง Instagram @schoolhousenyc โดยใช้แฮชแท็ก #lamerxsorrenti และ #lovelamer

Comments

Share Tweet Line