ปิดฉากตำนาน 103 ปี อาร์มี่ ยูไนเต็ด

ปิดฉากตำนาน 103 ปี อาร์มี่ ยูไนเต็ด

ปิดฉากตำนาน 103 ปี อาร์มี่ ยูไนเต็ด


               ปิดฉากลงไปแล้วอีกหนึ่งสโมสรอย่าง อาร์มี่ ยูไนเต็ด หรือฉายา สุภาพบุรุษวงจักรที่โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลมานานถึง 103 ปี เรียกได้ว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว หลังจาก "บิ๊กแเดง" พลเอกอภิรัชต์ ประธานสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด ในขณะนี้ มีคำสั่งพักทีมตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 โดยก่อนหน้านี้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด มีการวางแผนสำหรับฤดูกาลใหม่ ด้วยการจะย้ายรังเหย้าไปที่จังหวัดลพบุรี จากเดิมที่เคยอยู่สนามย่านฝั่งวิภาวดี แต่ทุกอย่างก็ถูกเบรกลงด้วยการประกาศยุบทีม  อาร์มี่ เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2459 ในนาม สโมสรกีฬากองทัพบก โดยมีวัตถุประสงค์ในการที่จะให้กำลังพลในกองทัพ ได้ออกกำลังกาย โดยในระยะแรก นักฟุตบอลส่วนใหญ่ มาจากกำลังพลในกองทัพทั้งสิ้น กระทั่งในปี 2553 หลังจากที่ทางสมาคมฯ และ ไทยพรีเมียร์ลีกได้มีการปรับโครงสร้างโดยเพิ่มจำนวนสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็น 18 สโมสร  จึงทำให้มีการจัดตั้ง บริษัท อาร์มี่ ฟุตบอล จำกัด เพื่อบริหารจัดการสโมสร และได้ทำการเปลื่ยนชื่อและตราสัญลักษณ์สโมสร โดยเปลื่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนเต็ด จนถึงทุกวันนี้ โดยที่ผ่านมาได้ผลิตนักเตะที่มีชื่อเสียง อย่างเช่น มงคล ทศไกร หรือที่ใครๆหลายคนเรียกเขาว่าจ่าเย็นนั่นเองรวมถึง ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร(ปัจจุบันเล่นให้กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด) และอนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ต่อสู้บนลีกสูงสุดมาอย่างโชกโชน จนเดินทางมาถึงปี ในปี พ.ศ. 2559 ต้องตกชั้นไปเล่นในไทยลีก2 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถเลื่อนชั้นกลับขึ้นมายังลีกสูงสุดได้อีกและนี่อาจจะเปลี่ยนจุดจบที่เหล่าผู้บริหารสูงสุดประกาศ ช็อกหัวใจแฟนบอลสุภาพบุรุษวงจักร ด้วยการประกาศยุบทีมโดยหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญของการตัดสินใจครั้งนี้เป็นเพราะสโมสรไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย หลังตกชั้นลงมาจากลีกสูงสุดนานถึง 4 ปี อีกทั้งยังมีความเกรงใจเรื่องการขอสปอนเซอร์จากภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนทีมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาถือเป็นโอกาสสุดท้ายของทีม แต่ก็ยังไม่สามารถคว้าตั๋วเลื่อนชั้นได้สำเร็จ แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า การตัดสินใจยุบทีมนั้น ทำไมถึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและกระทันหันได้ขนาดนี้ จริงๆ แล้วการประกาศยุบทีม ไม่ได้ทำร้ายแค่ผู้ที่เกี่ยวข้องกันในทีมเท่านั้นแต่ยังนักเตะบางส่วนที่เตรียมยื่นเรื่องเข้าเป็นนักเตะในสังกัด ประจำฤดูกาล 2020 แล้วมันก็เหมือนกับการไปดับความฝันของพวกเขาด้วยเช่นกัน รวมถึงนักเตะปัจจุบันที่ต้องหาทีมใหม่เพื่อไปค้าแข้งต่อไป  รวมถึงหัวจิตหัวใจของแฟนบอลคงรู้สึกเศร้าและเสียใจ ที่ทีมที่พวกเขารักและส่งแรงเชียร์มาตลอดระยะเวลาอันยาวนานได้จบสิ้นลงแล้ว เสียงโห่ร้อง เสียงเชียร์ที่ส่งให้เหล่านักเตะ อาร์มี่ ยูไนเต็ดในยามที่ลงไปทำหน้าที่ในสนาม เราคงจะไม่ได้ยินมันอีกแล้ว  นี่คงเป็นเสียงนกหวีดที่ดังยาวเป่าจบเกมแบบไม่มีวันที่ จะได้เห็นสโมสรแห่งนี้กลับมาโลดแล่นในพื้นสนามหญ้าสีเขียวบนเวทีไทยลีกอีกแล้ว  สุดท้ายไม่ว่ายังไงเราก็ยังคงเชื่อว่าสโมสรที่มีชื่อว่า อาร์มี่ ยูไนเต็ด จะยังคงอยู่ในใจของบรรดาเหล่าแฟนบอลเลือดสีเขียวกันอย่างแน่นอน แล้วเราจะพบกันใหม่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด

Comments

Share Tweet Line