“โรคซึมเศร้า” ภัยเงียบคุกคามสังคมไทย Guss Damn Good x a day ชวนชิมไอศครีมรสใหม่เยียวยาสุขภาพจิต

ไม่ได้ล้อเล่น, ไม่ใช่แค่ทำเพื่อธุรกิจ แต่ทำเพื่อสังคม Collab for Change: Guss Damn Good x a day ภูมิใจนำเสนอ Stand by Me ไอศครีมว่าด้วยโรคซึมเศร้าและสุขภาพจิต

จะดีแค่ไหนถ้าได้ใช้ความรู้ความสามารถที่เราถนัดในการช่วยกันเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้ ในวาระก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 a day(อะเดย์) ชวนหลายองค์กรมาทำโปรเจกต์เพื่อสังคมร่วมกันภายใต้ชื่อ ‘a day 20th Anniversary Collaboration Project’ เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมและการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม

ช่วงปีที่ผ่านมา ข่าวสารและผลกระทบประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้าและสุขภาพจิตเป็นที่พูดถึงอย่างหนาหูและดูจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดย a day เองก็พยายามสื่อสารการตระหนักรู้เรื่องนี้ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ประเด็นนี้จึงเป็นประเด็นฮอต ที่ a day นึกถึงเป็นอันดับแรกและตัดสินใจหยิบมาตั้งต้นเป็น Collab for Change หมายเลข 1 โดยได้ชวน Guss Damn Good แบรนด์ไอศครีมที่ยึดหลักการ Story to Flavor หรือการเล่าเรื่องราวผ่านรสชาติของไอศครีม มาร่วมมือกันบอกเล่าเรื่องราวของโรคซึมเศร้าและสุขภาพจิต

จิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร a day กล่าวถึงโปรเจกต์ a day 20th Anniversary Collaboration Project และ Collab for Change ว่า “a day สนใจเรื่องความคิดสร้างสรรค์ แล้วเฉพาะเจาะจงไปที่ความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้เราตระหนักถึงปัญหารอบตัว และเห็นหนทางแก้ของมัน หรือเห็นความหวังอะไรบางอย่าง ทำให้คนเห็นปัญหาเหล่านั้น แล้วก็คิดว่าเราจะแก้มันยังไง มีส่วนร่วมกับมันยังไง

“เราอยากใช้ข้อดีอย่างหนึ่งของการเป็นสื่อ นั่นคือเป็นตัวกลางในการสร้างโปรเจกต์ที่ดึงองค์กรที่มีจุดแข็งทางด้านข้อมูล กับองค์กรที่มีจุดแข็งในแง่การสื่อสารหรือเล่าเรื่องมาเจอกันหรือมาบรรจบกัน เรามองว่านี่คือพลังของการร่วมมือกันจนเกิดเป็นปลายทางที่อาจจะคาดเดาไม่ได้ว่าจะเป็นอะไรบ้าง สุดท้ายปลายทางที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นไอศรีม หรือเป็นอะไรอีกในอนาคต ตัวมันเองอาจจะไม่ได้แก้ปัญหาได้โดยตรง แต่เราอยากให้คนตระหนักถึงปัญหา ด้วยเชื่อว่าเมื่อเราตระหนักเห็นปัญหาแล้ว เราจะกลับไปถามหาต้นตอของมัน ไม่ว่าจะเป็นเชิงโครงสร้างของสังคม หรือใครบางคนที่อาจเป็นตัวละครที่สามารถทำหน้าที่ตัวเองเพื่อแก้ปัญหาได้”

ระริน ธรรมวัฒนะ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Guss Damn Good อธิบายวิธีคิดเบื้องหลังไอศครีม Stand by Me ไว้ว่า “ราสป์เบอร์รีให้ความหวาน เปรี้ยว หอม สื่อไปในทาง Stand by Me ที่มีคนคอยซัพพอร์ตอยู่ข้างๆ กัน แต่ว่าเราเอาดาร์กช็อกโกแลตประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งค่อนข้างขมเลยทีเดียว มาละเลงในไอศครีมราสป์เบอร์รีสีชมพู คือกัดไปคำแรกๆ มันจะขม แต่พอกินเข้าไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มเบลนด์กับความหวาน ความหอมของตัวราสป์เบอร์รี เข้ากันอย่างลงตัว ซึ่งความขมนี่เองเป็นตัวที่ทำให้เรารู้สึกว่า อย่าลืมตัวเองนะ ต้องสู้เพื่อตัวเองด้วย”

นที จรัสสุริยงค์ อีกหนึ่งผู้ก่อตั้ง Guss Damn Good  กล่าวถึงการบอกเล่าประเด็นทางสังคมผ่านไอศครีมไว้ว่า “เราได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้องที่เขามองเห็นว่ามันมีปัญหาจริงๆ อยู่ในสังคม เราเลยอยากให้คนกินได้รับรู้เมสเซจที่เรากลั่นออกมา แล้วไปกระจายต่อ ไปสร้างแรงบันดาลใจต่อ หรืออย่างน้อยๆ คนที่กินเขาอาจจะมีเพื่อนเป็นโรคซึมเศร้า เขาจะได้รู้วิธีว่าต้องทำตัวยังไง

“เมื่อก่อนเราจะทำไอศครีมตามความรู้สึกเรา โมเมนต์ที่เรารู้สึกดี โมเมนต์ที่เราได้หวนกลับไปคิดถึงเรื่อยๆ แต่หลังๆ เราเห็นแล้วว่าเราสามารถเล่าประเด็นทางสังคม แล้วทำให้มันดีขึ้น ส่ง awareness ออกไปในวงกว้างได้พวกเราร่วมกันรวบรวมอินไซต์เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าจากหลายๆ มุม ทั้งในมุมผู้ป่วย คนรอบตัวผู้ป่วย และผู้ให้บริการทางการแพทย์ ซึ่งจุดนี้เราได้ Ooca แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัดได้อย่างสะดวกสบายผ่านการวิดีโอคอลปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ มาช่วยให้ข้อมูลเบื้องลึกในฐานะที่ปรึกษาสุดท้ายจึงกลั่นกรองออกมาเป็น Stand by Me ไอศครีมรส Raspberry Dark Chip ซึ่งเกิดจากอินไซต์ 2 ประการหลัก ประการแรกคือ หนึ่งในวิธีการปฏิบัติตัวกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่เหมาะสมคือการยืนอยู่เคียงข้างและตั้งใจรับฟังโดยไม่ตัดสิน และประการที่สองคือ ผู้ให้้บริการทางการแพทย์มักจะเน้นย้ำให้ผู้ป่วยรักตัวเองและลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็งเพื่อตัวเอง”

Guss Damn Good x a day ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สุดสดใสด้วยไอศครีมรสชาติใหม่ Stand by Me ช่วยให้คนอารมณ์ดี กระปรี้กระเปร่า ส่วนผสมลงตัวของราสป์เบอร์รีกับดาร์กช็อกโกแลต พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระ เปิดให้บริการแล้วแวะชิมได้ที่ Guss Damn Good ทุกสาขา อาทิ The Commons ทองหล่อ 17, Woof Pack Bangkok ศาลาแดง ซอย 1, มหาทุนพลาซ่า เพลินจิต, Mega Bangna, Central world, Eight ทองหล่อ, Emquartier, King power Mahanakhon ฯลฯ