มุ้ยเปิดใจ! SCG เมืองทองจะคงอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป

มุ้ยเปิดใจ! SCG เมืองทองจะคงอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป

 เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์  เปิดเผยถึงความรู้สึกหลังได้ไปเล่นกับ ชิมิสุ เอสพัลส์ ทีมดังในเจลีก1 ในฤดูกาล 2020 พร้อมสู้เต็มที่ในแดนปลาดิบอีกครั้งและเมืองทองจะคงอยู่ในใจของเขาตลอดไป


 

   

ธีรศิลป์ แดงดา เปิดเผยว่า  “ทุกครั้งที่ออกไปตัวผมเองก็อยากประสบความสำเร็จ หลายๆครั้งมันก็เป็นประสบการณ์ ได้เรียนรู้จากสิ่งที่ออกไปเผชิญ แน่นอนว่าความสำเร็จผมเองก็อยากที่จะประสบความสำเร็จ มันก็ต้องเริ่มจากการทำงานหนัก ฝึกซ้อมในสนามแล้วก็หาโอกาสในการลงเล่นใน11คนแรกก่อน พอถึงช่วงเวลานึงเราค่อยมามองว่าความสำเร็จผมอยู่ตรงไหน อย่างแรกคือผมก็ต้องทำงานอย่างหนักก่อน ความสำเร็จอาจมาหาผมก็ได้”

 

“เรื่องของอายุก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ผมเชื่ออยู่อย่างนึงว่า ความฝันมันไม่มีวันหมดอายุ ผมอาจจะคิดว่ามันไม่มีโอกาสออกปเล่นอีกครั้งนึง ในเมื่อวันนึงมันมีโอกาสเข้ามาผมก็พร้อมที่จะออกตามหามันอีกครั้งนึง เรื่องอายุมันก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ พอโอกาสมันมีมาแล้วผมก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ว่ามันจะมีอายุเท่าไรแต่ถ้ามันมีความฝันของผมอยู่ในนั้นด้วยผมก็จะทำมันอย่างเต็มที่”

 

“จริงๆไม่เชิงว่าเป็นคนเลือกเอง(เบอร์ 23) ทางสโมสรได้เตรียมการไว้ให้และได้บอกผมไว้ประมาณนึงว่า มันมีเบอร์ 23 สนใจไหม เขาก็เหมือนอยากให้ผมใส่เบอร์23ด้วย ส่วนตัวผมเองไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเบอร์ข้างหลังเสื้ออยู่แล้ว เขาก็บอกอยู่ว่ามีหลายๆคนที่ใส่เบอร์นี้อยู่ เช่น ชินจิ โอกาซากิ ก็เคยใส่ก่อนไปเล่นยุโรป ผมเชื่อว่าในตัวเองก็มีความหมายกับเบอร์นี้ก็จะพยายามทำมันอย่างดีที่สุด”

 

“เมื่อพูดถึงเป้าหมายของ ชิมิสุ เอสพัลส์ เจ้ามุ้ยเผยต่อว่า อย่างที่ผบว่าแน่นอนในทุกฤดูกาลเราก็อยากเป้าหมายสูงสุดอยู่แล้ว เราก็ตั้งเป้าไว้อยู่แล้ว แต่ว่าณ.ตอนนี้มันยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมองถึงเป้าหมาย ผมก็ต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างก่อนก็คือลงไปในสนาม ค่อยๆปรับตัวเข้ากับเทคติกเพื่อนร่วมทีมเองหรือว่าวิธีการเล่นเอง ต้องพยายามอย่างหนักก่อน พอช่วงเวลานึงเราก็ค่อยมาดูว่าเป้าหมายเราอยู่ตรงไหน แต่แน่นอนว่าผลก็อยากได้แชมป์เจลีกแต่อย่างแรกก็ต้องเริ่มจากการลงไปทำในสนามก่อน”

 

“ผมก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน ที่นี่(เอสซีจี เมืองทอง)ก็เหมือนบ้านอีกหลังนึงของผม ผมได้เรียนรู้ ผมได้ผิดพลาด และสุดท้ายผมก็ได้เติบโตในสโมสรแห่งนี้ มันเป็นช่วงเวลา10กว่าปีที่อยู่ที่นี่ ก็ขอบคุณทุกอย่างที่สนับสนุนผมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารเอง เพื่อนร่วมทีมเอง ทุกคนที่ผ่านเข้ามา พี่ๆทุกคนที่ผมได้มีโอกาสเล่นร่วมที่เคยอยู่เมืองทอง รวมถึงแฟนบอลเมืองทองด้วยครับ มันอุ่นใจเสมอในยามที่ผมรู้สึกเหนื่อยหรือว่าอาจจะกลับมาเล่นที่เมืองทองก็ได้รับพลังดีๆ กำลังใจจากแฟนบอลจากเพื่อนร่วมทีมทุกคนและสโมสรแห่งนี้ ผมโตมากับที่นี่ ผมผูกผันกับที่นี่ ผมรักที่นี่ ผมรักสโมสรแห่งนี้ ผมรักทุกอย่างที่มันเป็นเมืองทอง วันนี้มันเป็นสัญญาซื้อขาด วันข้างหน้าผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านมา ผมมีความทรงจำที่นี่มากมาย ฝากเป็นกำลังใจให้ผมด้วย เมืองทองก็ยังคงเป็นเมืองทองไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้”

 

 

Comments

Share Tweet Line