ปลุกตำนานหลอนส่ง “ปอบผีเจ้า” อาละวาด “สมาร์ท-ผึ้ง-ฝ้าย-แป้ง” ดราม่าเดือด!!!
หากพูดถึง ผีปอบ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานผีไทยที่ถูกหยิบมาสร้างเป็นละครนับครั้งไม่ถ้วน มาครั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 หยิบนำเรื่องราวของผีปอบมาเล่าใหม่ ในเรื่อง “ปอบผีเจ้า” เรื่องราวของหญิงสาว ที่ต้องพรากจากชายผู้เป็นที่รัก ดวงจิตบริสุทธิ์กลับกลายเป็นดวงจิตชั่ว ‘คำสัญญา’ เป็นดั่งความหวังรั้งให้เธอรอเขา มีเพียงทายาทเท่านั้น ที่จะทำให้เธอได้ครองรักกับเขา ตลอดไป ซึ่งบท การเวก ผีปอป ชั่วร้าย ได้นักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง “น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์” มารับบทนี้ แถมยังต้องพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง และต้องแต่งเอฟเฟคผี แบบจัดเต็ม เรียกว่าการมาร่วมงานกับช่อง 8 ครั้งแรกคราวนี้ พูดเลยว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ประกบคู่กับ พระเอกหนุ่ม “สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์” เสริมด้วยกองทัพนักแสดงมากฝีมือ อาทิ พันเอกเบิร์ด-วันชนะ สวัสดี, ตอง-ภัครมัย โปตระนันท์, แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล, ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร, จูน-ชลฤดี อมรลักษณ์,ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์, โบว์ลิ่ง-ปริศนา กัมพูสิริ, นนท์-ชานนท์ ทิพกนก, ลาล่า อาร์สยาม, ต้น-จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, ตฤณ เศรษฐโชค, ขวัญฤดี กลมกล่อม, ดรีม-ณฐณพ ชื่นหิรัญ, หน่อย-อุ่นเรือน ราโชติ, หยา-จรรยา ธนาสว่างกุล และบอย-โชคชัย บุญวรเมธี ฯลฯ บทประพันธ์โดย วาทินีย์ โอฬารกร บทโทรทัศน์โดย วาทินีย์ / ปริศนา กำกับความหลอน และความสะพรึงโดย อดุลย์ บุญบุตร ออกอากาศ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.40 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 (เริ่มตอนแรก 4 มีนาคม นี้)
เรื่องราว การเวก หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมดวงชะตาของผู้สืบทอดของผีฟ้า แต่แล้วเธอก็ต้องสูญเสียทุกอย่างรวมถึงคนรัก และร่างบุญ ความดำมืดเข้ากัดกินเธอและความเสียใจได้ทำร้ายจิตใจเธอจนสูญสิ้น เธอกลายเป็นผีร้ายที่รอคอยเพียงคนรัก ที่จะกลับมาอยู่ข้างกันตามคำสัญญา กว่า 200 ปีต่อมา ณ เวียงผาจันทร์เกิดอาเพศครั้งใหญ่ การเวกตื่นจากการหลับใหลแสนยาวนาน อุ่นเมือง เจ้าเวียงผาจันทร์มีเมียสองคน คือ แม่เจ้าทองอ่อน ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ และ แม่นายกำไล เมียจากต่างแดนที่พยายามอย่างไรก็ไม่สามารถท้องได้ การเวกมาที่เวียงผาจันทร์ในฐานะแม่ครูคนใหม่แห่งหอศักดิ์สิทธิ์ แม่นายกำไลขอใช้วิชามารของแม่ครูการเวกเสกดวงวิญญาณให้เกิดในท้องของกำไล แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อครบ 25 ปีเด็กคนนั้นต้องกลายเป็นทายาทผู้สืบทอดของการเวก แม่เจ้าทองอ่อนสิ้นใจ หลังจากที่คลอดลูกออกมา เด็กที่ออกมาหน้าตาอัปลักษณ์ชื่อ คำแพงทอง ส่วนกำไลคลอดลูกในวันและเวลาเดียวกันชื่อ วงแหวน กำไลตัดสินใจสลับเด็กเพื่อให้ลูกของตัวเองพ้นบ่วงกรรมของการเวก กาลเวลาล่วงเลยผ่านมา 25 ปี คำแพงทองใช้ชีวิตอยู่กับความอัปลักษณ์และโดนรังเกียจ
ในขณะที่วงแหวนโตขึ้นมาสวยงามและแสนจองหอง ทั้งคู่ได้พบกับ เรือง ชายหนุ่มผู้จากเวียงไปนานและกลับมาช่วยเหลืองานที่บ้านเกิดของตน เรืองและคำแพงทองรักกัน ในขณะที่วงแหวนรักเรืองฝ่ายเดียว ในวันครบกำหนดการสืบทอดทายาท การเวกเหลือเวลาไม่มากนัก จึงจำต้องเลือกคำแพงทองเป็นทายาท แลกกับการทำให้คำแพงทองสวย ในขณะที่วงแหวนต้องทนทุกข์ทรมานจากคำสาปของการเวก วงแหวนต้องการได้เรืองมาครอบครอง จึงเลือกใช้ยาปลุกกำหนัด จนคำแพงทองมาเห็น เรืองพยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้คำแพงทองเชื่อใจเขา ในขณะที่คนก็เริ่มระแคะระคายที่มีชาวบ้านตายอยู่เรื่อยๆ ว่าเป็นผีกินไส้ในตำนานที่เล่าต่อกันมาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด ร้อนถึงพ่ออุ่นเมืองที่ต้องรวมพลเหล่าครูบาที่มีฝีมือในเวียงมาช่วยกันจับผีร้าย แต่ผีอย่างการเวกก็รอดได้ทุกครั้งไป หลังจากนั้น งามตา ลูกสาวที่เกิดจากวงแหวนและเรือง เธอเป็นนางเทียมผีฟ้าที่เติบโตมากับ หมอคูน หมอสมุนไพรที่คอยช่วยเหลือชาวบ้าน จึงทำให้เธอรู้จักเหล่าสมุนไพรและสรรพคุณถึงขั้นสามารถช่วยหมอคูนรักษาคนไข้ได้ อีกวิธีที่เธอใช้คือเป็นนางเทียมผีฟ้า ให้พลังแห่งผีฟ้ารักษาคน งามตามีข้อแม้ในการดำเนินชีวิตว่าจะต้องรักษาศีลและห้ามผิดผี เธอเลยไม่เคยสนใจชายผู้ใด หรือแม้กระทั่ง เทพไท ชายหนุ่มจากพระนครที่มีเหตุให้ต้องเยือนที่ข่อนน้ำแห่งนี้ เพราะลุงที่เขาเคารพเสียชีวิตกระทันหัน
ในขณะที่เทพไทประทับใจงามตา แต่งามตาต้องพยายามห้ามตัวเองด้วยกฎแห่งผีฟ้า เทพไทพยายามสืบหาความจริงว่าลุงของเขาเสียชีวิตได้อย่างไร เพราะชาวบ้านบอกว่าเป็นเพราะผีปอบมากินไส้ แต่เขาเป็นนักเรียนนอกหัวสมัยใหม่ จึงไม่เชื่อ เทพไทได้รับความช่วยเหลือจาก นักรบ ตำรวจหนุ่มประจำหมู่บ้านข่อนน้ำ แสงเงิน ลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ทั้งอิจฉาและยิ่งเกลียดงามตา เพราะใครก็หลงรักงามตา แสงเงินสั่งให้ มั่น ไปข่มขืนงามตา แต่ในคืนนั้น คืนที่ครบ 25 ปีของงามตา เลือดปีศาจครึ่งหนึ่งก็เกิดแสดงสัญชาตญาณความเป็นปอบขึ้นมา โดยที่งามตาไม่รู้ตัว พลังดีและชั่วร้ายต่อสู้กันในร่างของงามตา ข่าวการเสียชีวิตของชาวบ้านยังมีอยู่เรื่อยๆ ชาวบ้านยังแปลกใจอยู่ว่าใครคือปอบที่ออกล่าชาวบ้านเกือบทุกวัน จนสุดท้ายเธอได้รู้ว่าแท้จริง เธอรู้ว่าเป้าหมายของดวงจิตชั่ว คือการกลับมาอยู่กับคนที่รักอย่างเทพไท เธอจะยอมเป็นปอบไปตลอดกาล หรือจะขอใช้อำนาจของผีฟ้าปราบปอบในร่างให้สิ้น และถือครองเป็นหญิงพรหมจันทน์รับใช้ผีฟ้า โดยที่ไม่มีโอกาสได้อยู่กับชายที่รัก เธอจะเลือกสิ่งใด ติดตามได้ใน ปอบผีเจ้า ออกอากาศทุกวันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 18.40 น. ใครๆ ก็ดู ช่อง 8 กดเลข 27 (เริ่มตอนแรก วันพุธ 4 มีนาคม 63)
น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ “เรื่องนี้ เป็นครั้งแรกของน้ำผึ้ง ที่ฉีกบทบาทมากที่สุด ตั้งแต่เล่นละครมา และได้พูดอีสานครั้งแรกด้วย ยากมาก แถมเราต้องพูดให้เป๊ะ ให้ได้ เรียนการพูดอีสานตลอดทั้งเรื่อง บทการเวก ค่อนข้างท้าทาย และแปลกใหม่ในตัวของน้ำผึ้ง ใช้พลังการแสดงมาก จนบางวันถึงกับกลับบ้านนอนเลย ถามว่าเข็ดไหม ไม่เข็ด ส่วนตัวมองว่า เราสามารถเรียนรู้ได้อีก เพราะจากทีแรกเราว่าเราสุดการแสดงแล้ว พอมาเจอเรื่องนี้มันเพิ่มความสามารถเราไปอีก บทสนุก ตัวละครทุกตัวสนุก ก็อยากให้แฟนๆติดตามกัน ”
สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์ “เรื่องนี้ เป็นละครผีอีกแล้ว สงสัยผมคงถูกโฉลกกับละครแนวนี้ เป็นบทที่ท้าทายมาก แถมเล่นถึงสามตัวละคร ก็ต้องเล่นอย่างไรให้ไม่เหมือนกัน ถือว่ายากนะครับ แถมแต่ละตัวละคร มีอาชีพ และคาแรคเตอร์แตกต่างกันมาก ผมเองก็ทำการบ้านเยอะเหมือนกัน ยิ่งวันไหนที่ต้องแสดงเป็นสามคน ค่อนข้างเหนื่อยมากเลย แต่ดีที่นักสดงทุกคนส่งอารมณ์ไม้ต่อมาดี อย่างน้ำผึ้ง ฝ้าย จูน ดีใจมากที่ได้เล่นละครเรื่องนี้ มันพิสูจน์ศักยภาพของเราจริงๆครับ ฝากติดตามด้วยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน”
ตอง-ภัครมัย โปตระนันท์ “เรื่องนี้ ถามว่าท้าทายไหม มาก ถึงแม้ว่าเคยเล่นละครอีสาน พูดอีสานมาแล้ว แต่ครั้งนี้พูดเยอะกว่าเดิม และภาษาก็ค่อนข้างเก่า ทำให้เราต้องทำการบ้านมาดี ในเรื่องเป็นคน แต่ไม่กลัวปอบผีเจ้าเลย แถมจะตบจะตีเขาอีก ก็ถือว่าสนุกดี ได้เล่นในบทที่เราไม่ค่อยได้เล่น มีสนุกสุดคือตอนนั่งเสลี่ยง คือสนุกมาก เป็นฉากเปิดตัวเรา ในใจก็คิดว่าจะตกไหมนะ ถ้าตกคือเปิดตัวจริงๆแน่นอน(หัวเราะ) เรื่องนี้มีความน่ากลัว ความรัก โลภ โกรธ หลงครบรส รับรองสนุกแน่นอน แต่อย่าเกลัยดตองนะคะ”
แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล “เรื่องนี้ เป็นเรื่องแรกที่คิดหนัก หลังจากที่รับเล่น เพราะต้องพูดอีสาน พูดไปขำไป เราเองก็ต้องเล่นเป็นสามบุคลิก คือเป็นพี่ผึ้ง และตัวเราที่สวย และ ไม่สวย คือเหมือนจะง่าย แต่จริงๆยากมาก เล่นทั้งเป็นคนดีมากๆที่ถูกรังแก ไปจนร้าย แต่ไม่ร้ายเลย ตัวละครค่อนข้างสีเทา แต่มั่นใจว่าเรียกความสงสาร น้ำตาแฟนๆได้แน่นอนคะ นอกจากภาษาแล้ว ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอีสานด้วย เสื้อผ้าเรื่องนี้สวยมาก ซึ่งแป้งไม่ค่อยได้แต่งแนวนี้เท่าไร แถมต้องแต่หลังค่อม ใส่ฟันเหยิน ก็ค่อนข้างสนุกมาก”
ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร “เรื่องนี้ยากมากคะ แล้วก็เละอีกแล้ว สวยได้หนิดเดียว (หัวเราะ) ที่ยากที่สุดคือภาษาอีสาน แต่สนุกมาก นั่งท่องทั้งวัน ทั้งคืน แถมไม่ทิ้งลายเดิม จิกกัด ตบเก่งแน่นอน รับรองแฟนๆเกลียดแน่ๆ แต่เกลียดแค่ตัวละคร อย่าเกลียดฝ้ายนะคะ เรื่องนี้ครบรสมาก แถมได้ร่วมงานกับพี่ๆที่มากความสามารถ ทำให้ฝ้ายได้เรียนรู้การแสดงมากขึ้น เช่นพี่น้ำผึ้งที่เป็นนางเอกในดวงใจ พอได้มาเล่น เราเองก็ต้องตั้งใจมากขึ้น กลัวพี่เขาเสียเวลากับเรา เขินมากด้วย เรื่องนี้รับรองว่าสนุกครบรส ห้ามพลาดนะคะ”
จูน-ชลฤดี อมรลักษณ์ “เรื่องนี้ต้องพูดอีสานอีกครั้ง ตอนแรกคิดว่าง่ายละ เราเคยพูด แต่ไม่ใช่เลย เพราะมีศัพท์ต่างๆที่ต่างจากที่เคยเล่น เป็นคำแปลกใหม่ที่จูนไม่เคยพูดมาก่อน ค่อนข้างท้าทาย แถมต้องเล่นเป็นสองตัวที่มีด้านมืด และด้านสว่าง ก็ถือว่ายาก ที่จะเล่นให้ต่างกัน ด้วยตัวเราเองเป็นคนสนุกสนาน แต่ต้องมาเล่นนิ่งๆ น่ากลัว แถมร้องไห้เก่งอีก ก็ถือว่าฟื้นการแสดง และรับประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มคะ เรื่องนี้ถ่ายไปขนลุกไป เพราะเราเองไม่ค่อยได้เล่นแนวผีสักเท่าไร แต่ยอมรับว่ามีรู้สึกกลัวเหมือนกัน แถมเรื่องนี้ต้องเรียนรำผีฟ้า ก็ถือว่าสนุก ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่ไม่เคยรู้มาก่อน และไม่ได้หลบหลู่ เพราะค่อยข้างกลัวมาก อยากให้เป็นกำลังใจกันคะ”
Comments