วีเอ็มแวร์ขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์และบริการตอบรับกระแสนวัตกรรมโตเร็วในประเทศไทย

วีเอ็มแวร์ขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์และบริการตอบรับกระแสนวัตกรรมโตเร็วในประเทศไทย

บริษัท วีเอ็มแวร์ (NYSE: VMW) ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมซอฟต์แวร์ระดับองค์กร กับอีกก้าวสำคัญทางด้านธุรกิจ ประกาศเปิดตัวพอร์ทโฟลิโอล่าสุดประกอบด้วยผลิตภัณฑ์และบริการ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้แอปพลิเคชั่นและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยได้ตลอดเวลา


แอปพลิเคชั่นคือหัวใจหลักและตัวชี้วัดความสำเร็จของดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในวันนี้ เพราะแอปพลิเคชั่นทำให้องค์กรต่างๆ สามารถส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลส่วนบุคคลให้กับลูกค้าและเป็นโอกาสสร้างรายได้ใหม่ๆ  องค์กรทั้งหลายกำลังทำให้แอปพลิเคชั่นมีความทันสมัยเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และใช้ศักยภาพคลาวด์อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ความท้าทายที่ลูกค้าเผชิญคือทำอย่างไรให้นักพัฒนาสามารถส่งมอบซอฟต์แวร์ที่ดีและเร็วขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถรักษาความปลอดภัยและดำเนินงานไปพร้อมกันได้ เพื่อให้การลงทุนเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ทันสมัยในองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรจำเป็นต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัยไปพร้อมๆ กัน

วีเอ็มแวร์ได้เปิดตัวพอร์ทโฟลิโอล่าสุด VMware Tanzu สำหรับแอปพลิเคชั่นที่ทันสมัย และ VMware Cloud Foundation 4 กับ Tanzu, ระบบอัตโนมัติ, แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์ที่รองรับการใช้งานได้ทั้งแอปพลิเคชั่นบน VM รุ่นเดิมและคอนเทนเนอร์  ด้วยฟีเจอร์บริการ VMware Cloud Foundation ล่าสุด Tanzu Kubernetes Grid ร่วมกับ vSphere 7 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา ด้วยชุดซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับโมเดิร์นแอปพลิเคชั่น - ครอบคลุมการทำงานตั้งแต่แอปพลิเคชั่นไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐาน – วีเอ็มแวร์ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนความสามารถในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นทันสมัยล่าสุดไปพร้อมๆ กับการปรับปรุงแอปพลิเคชั่นและอินฟราสตรัคเจอร์ที่มีอยู่แล้ว

มร.แพท เกลซิงเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “วันนี้เรานำเสนอพอร์ทโฟลิโอที่ครบวงจรสำหรับ modern applications เพื่อให้ทันกับนวัตกรรมต่างๆ  วีเอ็มแวร์ให้อิสระแก่นักพัฒนาในการส่งผ่านแอปฯ ไปยังคลาวด์ใดๆ ก็ได้ ลดปัญหาในการปรับใช้งานร่วมกับ Kubernetes และช่วยให้ทีมผู้ดูแลระบบไอทีพัฒนาทักษะของพวกเขาเพื่อรองรับการทำงานเพื่อรองรับกระแสการพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ที่ทันสมัย”

เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยกำลังเฟื่องฟู เพิ่มขึ้นจาก 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 เป็น 16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2562

นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “ในยุคที่เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยแอปพลิเคชั่นกำลังขยายตัว องค์กรจำเป็นต้องคิดใหม่ว่าพวกเขาจะสามารถเพิ่มความคล่องตัว ด้านนวัตกรรม และความรวดเร็วในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการและมอบประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครให้กับลูกค้าของพวกเขาได้อย่างไร VMware Tanzu สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศไทย โดยช่วยให้องค์กรต่างๆ มีความพร้อมสำหรับใช้เทคโนโลยีในอนาคต อย่าง Kubernetes ในการสร้าง รัน จัดการ เชื่อมต่อและป้องกันแอปฯ ของพวกเขาบนคลาวด์และอุปกรณ์ต่างๆ ได้”

VMware Tanzu: พอร์ทโฟลิโอสำหรับโมเดิร์นแอป

VMware Tanzu เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถมอบซอฟต์แวร์ที่ดีได้เร็วยิ่งขึ้น ลูกค้าสามารถใช้ชุดโปรแกรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แอปมีความทันสมัยและทำงานอัตโนมัติ สามารถใช้ Kubernetes กับคลาวด์ต่างๆ สามารถรวมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบมัลติคลาวด์ได้ โดยพอร์ทโฟลิโอเริ่มต้นของ VMware Tanzu ประกอบไปด้วย:

 

  • VMware Tanzu Kubernetes Grid - Tanzu Kubernetes Grid เป็นรันไทม์ Kubernetes ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตั้งและรันสภาพแวดล้อม Kubernetes แบบมัลติคลัสเตอร์บนโครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้งาน Kubernetes ได้อย่างต่อเนื่องในทุกสภาพแวดล้อม รวมถึงดาต้าเซ็นเตอร์ ไฮเปอร์สเกลเลอร์ ผู้ให้บริการ และที่ปลายทาง ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่จำเป็นในการยืนหยัดและสนับสนุนสภาพแวดล้อม Kubernetes บนคลาวด์ ซึ่งถูกออกแบบมาให้พร้อมใช้งานในองค์กรและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก VMware

 

  • VMware Tanzu Mission Control – มีการพรีวิวเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา Tanzu Mission Control แพลตฟอร์มการจัดการแบบรวมศูนย์สำหรับการดำเนินงานและรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐาน Kubernetes และ Modern Applications สำหรับมัลติทีมและมัลติคลาวด์ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมจากแหล่งเดียว เพื่อการจัดการที่สอดคล้องในทุกสภาพแวดล้อมและเพิ่มความปลอดภัยและการกำกับดูแล นักพัฒนามีการเข้าถึงทรัพยากรด้วยตนเองเพื่อให้สามารถรับโค้ดเข้าสู่การผลิตได้เร็วขึ้น บริการนี้พร้อมใช้งานแล้ว

 

  • VMware Tanzu Application Catalog - Tanzu Application Catalog นำเสนอซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซที่ปรับแต่งเองได้จากแคตตาล็อก Bitnami ที่มีความปลอดภัย ผ่านการทดสอบและบำรุงรักษาเพื่อให้พร้อมใช้ในสภาพแวดล้อมระบบงานจริง (Production Environments) บริการดังกล่าวช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มผลิตผลและความคล่องตัวของแอปฯ และความสามารถส่วนอื่นๆ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดและโปร่งใสของระบบไอทีขององค์กร โดยบริการนี้คือโปรเจ็ค Project Galleon ที่เปิดพรีวิวในเดือนสิงหาคม 2562

 

นอกเหนือจากการเปิดตัวพอร์ตโฟลิโอ Tanzu ในวันนี้  วีเอ็มแวร์ได้เตรียมเพิ่มความสามารถให้กับพอร์ทโฟลิโอดังกล่าว หลังจากซื้อกิจการ Pivotal ในเดือนธันวาคม 2562 วีเอ็มแวร์ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อรวมทีมเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จาก Pivotal ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนแบรนด์ Pivotal Application Service (PAS) ของ VMware ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อให้นักพัฒนาเพิ่มความเร็วของฟีเจอร์และทีมปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนอัพไทม์มาตรฐานโลกให้กับ Tanzu Application Service นอกจากนี้วีเอ็มแวร์ได้ทำการเปลี่ยนโฉม Wavefront ไปยัง Tanzu Observability และจัดวาง NSX Service Mesh กับพอร์ตโฟลิโอ Tanzu Service Mesh ที่สร้างบน VMware NSX โดย Wavefront ส่วนเพิ่มเติมในพอร์ตโฟลิโอนี้ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเพิ่มความเร็วให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมถึงเฝ้าระวังและตรวจสอบแอปฯ ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ใช้ Kubernetes และทำให้การเชื่อมต่อ การมอนิเตอร์ รวมถึงไมโครเซอร์วิสต่างๆ ปลอดภัย

VMware Cloud Foundation 4: โครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์สำหรับโมเดิร์นแอป

วันนี้ VMware Cloud Foundation 4 กับ Tanzu จะให้บริการโครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ที่มีการจัดการที่สอดคล้องกันสำหรับทั้งแอปพลิเคชั่นบน VM-based และแอปพลิเคชั่นที่ใช้คอนเทนเนอร์ แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยลดช่องว่างระหว่างนักพัฒนาและฝ่ายไอทีซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและอัปเดตแอปฯ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการควบคุมด้านไอทีและขยายศักยภาพความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน ซึ่งมีให้บริการทั้งบนไพรเวทคลาวด์และพับบลิคคลาวด์ที่มีความหลากหลาย รวมถึงไฮเปอร์สสเกลเลอร์ VMware Cloud Foundation 4 ที่มี Tanzu ประกอบไปด้วย:

 

  • vSphere 7 รุ่นล่าสุด: การออกแบบใหม่โดยใช้ Kubernetes ทำให้ vSphere ได้รับการพัฒนาเพื่อให้สามารถทำงานได้ทั้งบนโมเดิร์นคอนเทนเนอร์และเวิร์คโหลดเวอร์ชวลแมชชีนรุ่นเก่า ในช่วงแรก vSphere 7 กับ Kubernetes จะสามารถใช้งานได้ผ่าน VMware Cloud Foundation 4 เท่านั้น

 

  • vSAN 7 รุ่นล่าสุด: ช่วยให้สามารถจัดการสตอเรจ ประกอบด้วย File Services และ Cloud Native Storage สำหรับโมเดิร์นแอปได้แบบเวอร์ชวล

 

  • vRealize 8.1 รุ่นล่าสุด: ช่วยให้จัดการเวิร์กโหลดและแอปพลิเคชั่นแบบเวอร์ชวล บนคลาวด์และคอนเทนเนอร์ ด้วยการทำงานแบบ self-driving และความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานอัตโนมัติ

 

  • NSX-T: บริการเน็ตเวิร์คกิ้งเต็มรูปแบบและระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยให้เชื่อมต่อและรักษาความปลอดภัยให้กับ VMs และคอนเทนเนอร์

 

VMware Cloud Foundation 4 with Tanzu จะแนะนำบริการ VMware Cloud Foundation Services ที่รวมการทำงานของ Kubernetes และ RESTful API เพื่อให้องค์กรสามารถเข้าถึง API ได้ในบริการหลักทั้งหมด บริการของ VMware Cloud Foundation ประกอบด้วย:

 

  • บริการ Tanzu Runtime: บริการเหล่านี้จะส่งมอบบริการพัฒนาหลักของ Kubernetes รวมถึงการกระจาย Tanzu Kubernetes Grid ที่ทันสมัย

 

  • บริการ Hybrid Infrastructure: บริการนี้ขับเคลื่อนด้วย VMware vSphere 7 รุ่นล่าสุด ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึง API ของ Kubernetes ได้เต็มรูปแบบ รวมถึง API ของโครงสร้างพื้นฐานแบบอัตโนมัติที่กำหนดด้วยโค้ด โดย vRealize Automation จะขยายขอบเขตการทำงานให้กับแอปพลิเคชั่น ปรับใช้กับคอนเทนเนอร์

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานแอปพลิเคชันทั้งหมด VMware Cloud Foundation จะช่วยให้ลูกค้าใช้งานคลาวด์ในรูปแบบ on-premise บนไพรเวทคลาวด์และสามารถขยายไปบน public cloud ได้ ซึ่งทำให้นักพัฒนาสามารถใช้เทตโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาล่าสุดและคอนเทนเนอร์ได้เร็วขึ้น องค์กรจะได้รับประโยชน์จากการจัดการคอนเทนเนอร์และเวิร์คโหลดของ VM ที่ง่ายขึ้นบนคลาวด์ของผู้ให้บริการต่างๆ เช่น AWS, Azure, Google, Oracle, Rackspace และ IBM รวมถึงพาร์ทเนอร์ VMware Cloud Verified โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ความยืดหยุ่นและความพร้อมใช้งาน

VMware vSphere 7: บริการที่ต้องมีสำหรับโมเดิร์นไฮบริดคลาวด์

ในวันนี้วีเอ็มแวร์ยังได้เปิดตัว VMware vSphere 7 ซึ่งเป็นวิวัฒนาการล่าสุดที่จะพลิกโฉม vSphere ในทศวรรษที่ผ่านมา VMware vSphere 7 ถูกพรีวิวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2562 เรียกว่า Project Pacific ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การออกแบบสถาปัตยกรรม vSphere ใหม่ในโอเพ่นแพลตฟอร์ม โดยใช้ Kubernetes APIs เพื่อมอบประสบการณ์เสมือนทำงานบนคลาวด์สำหรับนักพัฒนาและผู้ดูแลระบบ ซึ่งเป็นโซลูชั่นพื้นฐานของพอร์ทโฟลิโอ  VMware Tanzu จะรองรับแอปพลิเคชั่นทั้งหมดรวมถึงแอปพลิเคชั่นล่าสุดและรุ่นเก่าโดยใช้การผสมผสานระหว่าง เวอร์ชวลแมชชีน คอนเทนเนอร์ และ Kubernetes

VMware vSphere 7 จะช่วยให้องค์กรต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาและผู้ดูแลระบบซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีความปลอดภัย เสถียรภาพ การกำกับดูแลและต้นทุนที่ลดลงของโครงสร้างพื้นฐานองค์กรแบบดั้งเดิม ความสามารถและฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้องค์กรสามารถ: 

 

  • เพิ่มความสามารถในการทำงาน: นักพัฒนาจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้วยตนเองและความสามารถในการเพิ่มผลผลิตที่ลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน Tanzu Kubernetes Grid ถูกฝังลงใน vSphere 7 พร้อม Kubernetes ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ VMware Cloud Foundation 4 เพื่อส่งมอบกลุ่ม Kubernetes เป็นบริการสำหรับนักพัฒนา

 

  • การทำงานที่คล่องตัว: ทีมดูแลไอทีจะได้รับประโยชน์จากการจัดการที่เน้นแอปพลิเคชันใหม่ ความสามารถในการจัดการระบบที่ง่ายขึ้นและแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับสนับสนุนการทำงานที่ครอบคลุมทั้งบน คลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ และสภาพแวดล้อมที่ปลายทาง

 

  • เร่งนวัตกรรม: แอปพลิเคชันระดับองค์กรทั้งหมดจะได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าใน vSphere 7 เพื่อเร่งนวัตกรรม แอปพลิเคชันจะสามารถใช้ฮาร์ดแวร์ GPU เพื่อเร่งประสิทธิภาพของแอปพลิเคชั่น AI / ML โดยใช้ elastic pool ของทรัพยากร GPU นอกจากนี้ลูกค้าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชั่นที่ทำงานได้รวดเร็วขึ้นโดยใช้ DRS และ vMotion ที่ปรับปรุงแล้ว รวมทั้งการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับความสามารถของหน่วยความจำถาวร (PMEM)

 

นอกจากนี้ VMware vSphere 7 ยังช่วยให้องค์กรได้รับประประโยชน์จากการลงทุนในเทคโนโลยี vSphere เครื่องมือ และชุดพัฒนาทักษะบุคลากร

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line