โคเวสโตร จับมือศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมอให้แก่เยาวชน

โคเวสโตร จับมือศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมอให้แก่เยาวชน

โคเวสโตร ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เปิดตัวแอปพลิเคชัน “BMBW The Young Guardian EP1.” สื่อการเรียนรู้ที่มาพร้อมความสนุกสนาน เพื่อสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้แก่เด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา โดยเริ่มต้นที่โรงเรียนวัดหัวลำโพงเป็นแห่งแรก พร้อมตั้งเป้าการขยายผลสู่โรงเรียนในเครือข่ายอีก 5 แห่ง และเข้าถึงการส่งเสริมความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแก่เด็กๆ ทั่วประเทศผ่านแอปพลิเคชันนี้


นางสาวกวิสรา วรรธนะพิศิษฐ์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันทุกภาคส่วนต่างให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนกันเป็นอย่างมาก โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โคเวสโตร (ประเทศไทย) ได้สนับสนุนและผลักดันให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ตามแนวคิดดังกล่าวผ่านโครงการต่างๆ อาทิ การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมองค์ความรู้การจัดการขยะและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพให้แก่เด็กนักเรียนที่โรงเรียนในพื้นที่ชุมชนรอบศูนย์ปฏิบัติการของโคเวสโตร ในจังหวัดระยอง และกรุงเทพมหานคร พร้อมกับการจัดทำหนังสือชุดสำหรับเด็ก “จุดประกายความคิดเพื่อชีวิตที่สดใส” และได้ส่งมอบไปยังหน่วยงานเครือข่ายและโรงเรียนต่างๆ ในหลายพื้นที่กว่า 25,000 เล่มแล้ว โดยเราเชื่อมั่นว่า การสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้กับภาคการศึกษาและเยาวชน และผลักดันให้เกิดการนำไปปฏิบัติ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมและประเทศในระยะยาว ถือเป็นภารกิจสำคัญและเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของโคเวสโตร”

การจัดทำหนังสือชุดสำหรับเด็ก “จุดประกายความคิดเพื่อชีวิตที่สดใส” เป็นโครงการที่ริเริ่มขึ้นจาก โคเวสโตร (ประเทศไทย) เพื่อเป้าหมายในการให้ความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกด้านการจัดการขยะและของเสีย (waste management) อย่างมีประสิทธิภาพผ่านเรื่องราวการผจญภัยของกลุ่มจิ๋วพิทักษ์ ที่นับว่าเป็นการถ่ายทอดสาระควบคู่ความสนุกสนานไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันได้รับการตีพิมพ์ แปลเป็นภาษาต่างๆ และเผยแพร่แก่เยาวชนใน 6 ประเทศทั่วเอเชีย

ทั้งนี้ โคเวสโตร มุ่งมั่นที่จะขยายการเรียนรู้ให้ออกไปในวงกว้างมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงเด็กและผู้ปกครองอย่างไม่จำกัดแค่ในหนังสือนิทาน จึงได้ต่อยอดสื่อการเรียนรู้ดังกล่าวสู่การนำเสนอในรูปแบบออนไลน์แอปพลิเคชันในชื่อ “BMBW The Young Guardian EP1.” ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานและลูกเล่นต่างๆ อาทิ เกมจับคู่เพื่อแยกประเภทขยะ กิจกรรมวาดรูปและระบายสี และการอัดเสียงเพื่อเล่านิทานโดยผู้ปกครองและครู อาจารย์ที่ใช้งานเพื่อประกอบการเรียนการสอนด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาในห้องเรียนก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นดังกล่าวทั้งระบบ Android และ iOS  ได้ที่ Google Play Store และ App Store ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

ผศ.อรรถพล อนันตวรสกุล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนฯ เห็นว่าความร่วมมือกับ โคเวสโตรในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการปลูกฝังแนวคิดด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เยาวชนได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสามารถเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสนับสนุนการจัดสิ่งแวดล้อมศึกษา ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมที่เกาะเกี่ยวกันเป็นรากฐานของอนาคตที่ยั่งยืน ในการนี้ทางศูนย์ฯ ได้สนับสนุนการจัดการปฏิรูปการเรียนรู้ผ่านการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ซึ่งกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษานี้เป็นกลไกหนึ่งในการสร้างคุณภาพการศึกษาอย่างมีส่วนร่วมและนำไปสู่ชีวิตจริง ทางศูนย์ฯ จึงได้วางแนวทางร่วมกับโคเวสโตรในการนำร่องกิจกรรมที่โรงเรียนวัดหัวลำโพงเป็นแห่งแรก โดยสนับสนุนให้นิสิตของมหาวิทยาลัยเพื่อการได้มีส่วนร่วมกับหน่วยงานเอกชนในการจัดกิจกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้แก่เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา อีกทั้ง ยังตั้งเป้าหมายในการขยายผลสู่โรงเรียนในเครือข่ายของมหาวิทยาลัยต่อไปในระยะยาว”

“สำหรับกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่จัดขึ้นในวันนี้ บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการนำสื่อการเรียนการสอนดังกล่าวทั้งหนังสือชุดสำหรับเด็กและแอปพลิเคชันมาเปิดตัวและเผยแพร่สู่การเรียนการสอนด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาแก่โรงเรียนในเครือข่าย ซึ่งนับว่าความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการมุ่งส่งเสริมกระบวนด้านการศึกษาเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อผลักดันความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) ซึ่งเรามุ่งหวังที่จะได้ขยายผลไปทำกิจกรรมในโรงเรียนในเครือข่ายอีกอย่างน้อย 5 แห่งในปี 2563 นี้” กวิสรา กล่าวสรุป

Comments

Share Tweet Line