“องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ชวนก้าวใหญ่ตามใจช้างที่ ฟอลโลวอิ้ง ไจแอนท์”

“องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ชวนก้าวใหญ่ตามใจช้างที่ ฟอลโลวอิ้ง ไจแอนท์”

ข่าวโรคระบาดโคโรน่าไวรัส เป็นเสมือนม่านเมฆหมอกที่กำลังบั่นทอนความรุ่งเรืองของฤดูการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นของปีนี้ ตามมาด้วยข่าวร้ายที่ปางช้างเกือบหนึ่งร้อยแห่งทั่วภาคเหนือ รวมถึงปางช้างที่กระจายอยู่ในภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ต่างก็กำลังเผชิญภาวะวิกฤตจากการขาดหายของนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกันหลายแห่งที่ไม่สามารถแบบรับภาระได้ไหวก็จำเป็นต้องปิดตัวลง ตลอดระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จากท่าเรือหลักบนเกาะลันตา ลัดเลาะลงใต้ตามแนวป่าเขาอันร่มรื่นสลับกับชายหาดที่สวยงาม สองข้างทางเราจะพบปางช้างหลายแห่งเปิดบริการรับนักท่องเที่ยว แทบทุกแห่งล้วนมีจุดขายคือการขี่ช้าง ป้อนอาหารช้าง เล่นน้ำกับช้างหรือการแสดงของช้าง ซึ่งเป็นโปรแกรมทัวร์ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั่วโลก


ชเร สังข์ขาว หนุ่มชาวใต้ อดีตเจ้าของปางช้างท่องเที่ยวที่เคยเน้นถึงความสุขของคนมากกว่าความสุขของช้าง บอกเล่าเรื่องราวการดำเนินธุรกิจกว่าสิบปีที่เขาได้ใช้ชีวิตร่วมกับช้าง แต่ก็เพราะช้างที่ได้จุดประกายให้เขาเปลี่ยนความคิดการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ นั่นคือการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถร่วมแบ่งปันรอยยิ้มผ่านการสังเกต เรียนรู้ในวิถีชีวิตและความสุขของช้าง ณ ฟอลโลวอิ้ง ไจแอนท์ ปางช้างที่มอบมิตรภาพพร้อมความใส่ใจในสวัสดิภาพสัตว์ ทั่วพื้นที่กว่า 45 ไร่ในเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นมรดกตกทอดจากพ่อของเขา “พื้นที่ที่นี่ เรียกว่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก บางทีได้ยินเสียงนกดังกลบเสียงที่เราคุยกัน ตอนนั้นเวลาที่นักท่องเที่ยวมาก็จะพานั่งหลังช้าง อาบน้ำช้าง เราก็ทำแบบนี้มาจนชิน เพราะปางที่อื่นที่ผมรู้จักเขาก็ทำกันมาแบบนี้ ต่อมาผมเริ่มสังเกตเห็นช้างที่อยู่กับเราทุกวัน ไม่สดใสร่าเริง บางเชือกเริ่มไม่เชื่อฟังควาญ ผมอยู่กับช้างทุกวันทำไมผมจะไม่รู้ว่าช้างชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่ที่ผ่านมาเราบังคับช้างจนเราชิน ทั้งๆ ที่ช้างเป็นสัตว์ที่ฉลาดมากนะ แค่พูดบอกกันเขาก็ฟังเราแล้ว” ชเร เล่าขณะนำเดินหน้าตามรอยเท้าช้างพร้อมย้อนเล่าถึงอดีต

 

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line