เมื่อกลับไปทำงานตามปกติวิถี (ใหม่) ประเด็นที่องค์กรธุรกิจต้องพิจารณา

เมื่อกลับไปทำงานตามปกติวิถี (ใหม่) ประเด็นที่องค์กรธุรกิจต้องพิจารณา

เมื่อกลับไปทำงานตามปกติวิถี (ใหม่) ประเด็นที่องค์กรธุรกิจต้องพิจารณาเพื่อความคล่องตัว เช่นเดิม หลายคนระบุว่าโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหลังจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าเรานั้นเปราะบางและทำให้เราต่างต้องพิจารณาคุณค่าของตน เช่นเดียวกับการทบทวนนิสัยและทัศนคติที่มีต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว


มารีนา อเล็คซีวา ประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคล แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า เกือบทั้งโลกเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกลซึ่งไม่เคยทำมาก่อน และเปลี่ยนรูปแบบการทำงานประจำวันในแต่ละวัน สภาพการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่ออยู่เฉพาะแต่ในสำนักงานเท่านั้นเป็นภาพรวมที่พบเห็นได้ในหลายวัฒนธรรม ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ขณะเดียวกันผู้คนก็ต้องการกลับไปที่สำนักงานเพราะต้องการการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมซึ่งแน่นอนว่าเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ทุกอย่าง

ในขณะที่บางประเทศเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดในการรักษาระยะห่าง ธุรกิจต่างๆ ก็กำลังเผชิญกับคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนกลับไปทำงานที่สำนักงาน
ตัวอย่างเช่น มั่นใจได้อย่างไรว่าพนักงานจะปลอดภัยและสะดวกสบายเพียงพอ ซึ่งองค์กรธุรกิจสามารถพิจารณาได้สองประเด็นสำคัญ คือ ด้านมนุษย์และด้านองค์กร 

การกลับไปเป็นปกติวิถี (ใหม่)

ในขณะที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการกักกัน ธุรกิจเริ่มเปิดทำการอีกครั้งและผู้คนจำนวนมากก็จะกลับมาทำงานตามปกติในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พนักงานของแคสเปอร์สกี้เองก็กระตือรือร้นที่จะกลับมาที่สำนักงาน เพื่อจะได้พบปะเพื่อนร่วมงานและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ตามในขณะที่โคโรน่าไวรัสยังคงอยู่กับเรา จึงเกิดคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของพนักงานมาเป็นอันดับแรก ในความเป็นจริง เราทุกคนต่างก็ต้องค้นหาความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความปลอดภัยและความต้อง การที่จะกลับไปทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ สำหรับแคสเปอร์สกี้เอง เราได้ทำการสำรวจพนักงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อศึกษาอารมณ์ความรู้สึกของพนักงาน วิเคราะห์ปริมาณงาน สำรวจว่าพนักงานมีทุกสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานระยะไกลหรือไม่ ว่าพนักงานเข้าใจชัดเจนในการดำเนินงานของบริษัทหรือไม่ นอกจากนี้ หนึ่งในการสำรวจล่าสุด เราได้ถามพนักงานว่ารู้สึกอย่างไร มีความกระตือรือร้นมากน้อยแค่ไหนที่จะได้กลับไปสำนักงาน และความกังวลหลักๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ คืออะไร การสำรวจนี้ทำให้เราเข้าใจสถานการณ์ได้ดีขี้นและช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างสมดุลมากขึ้น มีสิ่งสำคัญหลายประการที่เราจะนำมาพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงกลับไปทำงานที่สำนักงานนั้นราบรื่น ดังนี้

- พนักงานที่มาทำงานมีความปลอดภัยแค่ไหน มีรถยนต์ส่วนตัวหรือต้องใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพื่อมาทำงานหรือไม่ การใช้ระบบขนส่งสาธารณะทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงมากขึ้น และหากผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจที่จะเดินทางและต้องการที่จะทำงานจากที่บ้านก็สามารถทำได้ หากพนักงานเต็มใจที่จะมาที่สำนักงาน บริษัทจำเป็นต้องให้แน่ใจว่าจัดการเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นมากพอเพื่อให้พนักงานสามารถหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนได้

- หากโรงเรียนและโรงเรียนอนุบาลเปิดตามปกติ และพนักงานยังจำเป็นต้องดูแลลูกๆ อยู่ในสถานการณ์นี้ การทำงานระยะไกลก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

- หากพนักงานจำเป็นต้องดูแลพ่อแม่หรือสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ อยู่ในสถานการณ์นี้ การทำงานระยะไกลก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

- สถาวะสุขภาพโดยรวมของพนักงาน หากรู้สึกไม่สบาย ตัวพนักงานเองหรือสมาชิกในครอบครัวอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสิ่งสำคัญคือจำเป็นจะต้องอยู่บ้าน

การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก การเปลี่ยนแปลงควรจะมีความสะดวกสบายสำหรับพนักงานมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญหากการเปลี่ยนแปลงนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น การทำงานระยะไกลในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้เราได้แสดงความเป็นมนุษย์มากขึ้นและมีเมตตาต่อกันมากขึ้น บริษัทและพนักงานได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เนื่องจากได้มีโอกาสเรียนรู้ที่จะพูดคุยอย่างเปิดเผย ไม่เพียงแค่เรื่องงาน
แต่รวมถึงปัญหาส่วนตัวที่ต่างกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ การเชื่อมต่อระหว่างกันนี้จะช่วยเราได้ในอนาคตไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อเผชิญกับความเป็นจริงใหม่ที่เกิดขึ้น 

ความเสี่ยงและความคุ้มค่า

เมื่อพิจารณาการกลับมาทำงานในสำนักงาน บริษัทต่างๆ ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อประโยชน์ของบริษัท บริษัทจำเป็นต้องมีมาตรการที่ซับซ้อน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่พนักงานจะป่วยและความเสี่ยงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยใดๆ แน่นอนว่ามาตรการนี้จะขึ้นอยู่กับแนวทางของแต่ละประเทศ แต่มีกฎระเบียบและมาตรการทั่วไปสำหรับทุกคนที่ต้องปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ดังนี้

- จัดให้มีการคัดกรองอุณหภูมิของพนักงาน

- จัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ให้กับพนักงาน เช่น หน้ากากระบบทางเดินหายใจ เจลล้างมือฆ่าเชื้อและถุงมือ

- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะในพื้นที่เปิดโล่งที่เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับผู้ใช้ร่วมกันจำนวนมาก

- ควบคุมจำนวนคนในบริเวณเดียวกันให้เป็นปกติวิสัย โดยสร้างตารางเวลาที่เหมาะสมในการใช้พื้นที่สำนักงานส่วนต่างๆ

บริษัทควรพิจารณาสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น หากมีพนักงาน 400 คนในสำนักงาน และหนึ่งในนั้นมีผลทดสอบ COVID-19
เป็นบวก บริษัทจะต้องพิจารณามาตรการที่ควรดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานคนอื่นจะปลอดภัย รวมถึงพิจารณาค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินมาตรการต่างๆ
ทั้งนี้หากการกลับมาทำงานที่สำนักงานทำให้เกิดความเสี่ยงมากกว่าความคุ้มค่า และโอกาสที่จะทำงานระยะไกลจากที่บ้านต่อไปอีกหลายเดือนข้างหน้านี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดก็ได้ เราทุกคนต่างต้องการกลับสู่ชีวิตปกติโดยเร็วที่สุด แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันหรือวัคซีนเพื่อปกป้องเราจากไวรัส
เราจึงจำเป็นต้องระวังและดูแลทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร ซึ่งก็คือพนักงานของเรานั่นเอง การทำงานที่สำนักงานจะยังคงคุณค่าได้โดยพนักงาน
แต่สิ่งที่พนักงานจะประทับใจมากที่สุดคือความยืดหยุ่น เราได้เรียนรู้วิธีจัดสรรเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว หรือกิจกรรมทางสังคมอื่นๆ เช่น การเป็นอาสาสมัคร และการเปลี่ยนเวลาทำงานให้สามารถยืดหยุ่นได้จะเป็นประโยชน์สำคัญสำหรับองค์ก
รต่างๆ เพื่อคงความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดได้

 

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line