พีท ทองเจือ ควง น้องมิย่า อัพเดทอาการป่วยพี่สาว น้องเซย่า

พีท ทองเจือ ควง น้องมิย่า อัพเดทอาการป่วยพี่สาว น้องเซย่า

พีท ทองเจือ คู่ น้องมิย่า อัปเดทอาการป่วยไทรอยด์ต่ำของน้องเซย่าก็ให้คุณหมอดูแลสุขภาพอยู่ ใช้ชีวิตได้ปกติแต่ห่วงเรืองระยะยาวหากปล่อยไว้อาจจะทำให้เป็นโรคอื่น ซึ่งที่บ้านไม่ให้ทานยาแผนปัจจุบันเพราะรู้สึกว่าเด็กควรรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ รับต้องดูแลเรื่องชีวิตประจำวันของน้องมากขึ้น อีกฝ่ายก็ไม่กังวลหลังแพลนที่วางไว้ต้องเบรคเพราะขอโฟกัสสุขภาพน้องก่อน มิย่าให้กำลังใจพี่สาว หากเครียดก็ชวนกันทำขนม

 
 
เป็นอีกหนึ่งครอบครัวคนบันเทิงที่มากความสามารถกัทั้งบ้าน สำหรับครอบครัวของหนุ่มพีท ทองเจือและลูกๆทั้ง3คน แต่ก็ต้องมีเรื่องให้ปวดใจเมื่อลูกสาวคนโตอย่างสาวเซย่ามีอาการป่วยเป็นโรคไทรอยด์ จนถึงต้องพักแพลนต่างๆที่วางไว้ไปก่อน งานนี้ได้เจอตัวคุณพ่อ พีท และลูกสาวคนที่2 น้องมิย่า เลยอัปเดทเกี่ยวกับอาการป่วยของน้องเซย่าว่า


 

พีท “ตอนนี้คุณหมอก็กำลังดูเรื่องสุขภาพอยู่ จริงๆ ถ้าเห็นว่าน้องแข็งแรงปกติ เพียงแต่ว่าเวลาตรวจค่าต่างๆ ในร่างกายมันยังไม่ค่อยโอเคตอนแรกก็มีปัญหาเรื่องผมร่วง น้ำหนักขึ้น ซึ่งตอนนี้น้ำหนักขึ้นมาประมาณ 14 กิโลกรัม คุณหมอบอกว่าอาการของน้องจะเรียกว่าโรคฮาชิโมโตหรือว่าเป็นไทรอยด์ต่ำ แล้วค่าเม็ดเลือดขาวก็ต่ำ ซึ่งค่าทุกอย่างตอนนี้มันไม่ค่อยโอเค ถามว่าใช้ชีวิตปกติได้ไม่มีปัญหาใช่ไหม ใช่ แต่ว่าในระยะยาวสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือถ้ายังปล่อยแบบนี้โดยที่ไม่ดูแลรักษาจริงจัง หัวใจจะทำงานหนักกว่าปกติ อาจจะนำมาในเรื่องของโรคหัวใจได้ในอนาคต ซึ่งเด็กอายุ 14-15 ไม่น่าจะต้องเจอเรื่องแบบนี้เนอะ แล้วที่สำคัญคือที่บ้านเราไม่ให้ทานยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาวิทยาศาสตร์ เพราะรู้สึกว่าเด็กอายุน้อยๆ ไม่ควรจะทานยา เดี๋ยวมันจะไปกดประสาทหรือไปทำอะไร ควรจะรักษาด้วยวิถีธรรมชาติมากกว่า ถ้าตรวจแล้วว่าร่างกายขาดวิตามินอะไรก็เติมให้มันเต็ม และใช้ชีวิตที่มันค่อนข้างธรรมชาติมากที่สุด 

 

ถามว่าดีขึ้นไหมผมให้แค่ 15-20 เปอร์เซ็นต์เองครับ จริงๆ สาเหตุที่เกิดก็รวมๆ กัน ทั้งเรื่องของอาหารการกินและการออกกำลังกายที่มันไม่แมตช์กัน น้องก็ไม่มีความกังวลอะไรครับ ช่วงนี้ก็สนุกกับการทำขนมแล้วก็อ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบอะไรต่างๆ แต่น้องเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้วเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ทุกวันนี้ก็ต้องดูชีวิตประจำวันของน้องมากขึ้น ช่วงที่ติดโควิด-19 คุณแม่กับคุณลูกทุกอย่างที่ทานก็จะเป็นเฮลธ์ตี้หมด บ้านเราไม่ได้ทานอาหารคลีนนะครับ แต่จะดูเรื่องน้ำมันที่ใช้ทอดอะไรต่างๆ ให้เป็นสิ่งที่ดีหมด ทำให้ร่างกายขับสิ่งที่ไม่จำเป็นออก อย่างที่วางไว้ตอนนี้โฟกัสแค่เรื่องสุขภาพของน้องก่อน ยังไม่ได้คิดเรื่องอื่นแล้วอย่างที่บอกว่าอันนี้ 4 เดือนกว่าไปตรวจแล้วค่าต่างๆ ก็ยังไม่ดีขึ้นมาเท่าไหร่ 

 

ตอนนี้ทุกคนหันมามองที่จุดเดียวกันคือเรื่องของสุขภาพ อย่างคุณหมอบอกว่าด้วยค่าต่างๆ ของร่างกายที่มันไม่ค่อยโอเค ถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่างที่เราได้เล่าให้ฟังเช่นโรคหัวใจมันอาจจะตามมา แล้วด้วยค่าต่างๆ ที่คุณหมอได้ตรวจน้องอาจจะวูบเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งถ้าวูบแล้วเราไม่ได้อยู่ด้วยมันไม่โอเค อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในสายตาเราก่อน น้องอายุยังน้อยอยู่ คือที่บ้านเริ่มเร็วนิดหนึ่ง เร็วไม่ได้หมายความว่าดีนะ กลายเป็นว่าตกมาอยู่ที่พ่อแม่ที่ต้องกระตือรือร้น แทนที่จะนั่งชิลๆ ไปทำงาน ลูกก็ไปเรียนตามปกติ นี่กลายเป็นว่าทุกอย่างต้องเร็ว คิดเร็ว ทำเร็ว แก้ปัญหาเร็ว 

 

และโชคดีที่เซย่าเป็นคนเรียนหนังสือดี เกรดแบบเกือบ 4 หมดด้วยความมีวินัยและความคิดของเขาต่างๆ นานา คือผมไม่สามารถบังคับให้เขาคิดหรือพูดอะไรได้เลย เขาจะคิดแล้วตัดสินใจเอาเอง เราก็แค่คอยดันหลังและเดินตามเขา ถ้าเขาจะล้มเราก็ดันหลังเอาไว้เท่านั้นเอง หรือว่าถ้าเขาล้มจริงๆ ก็อย่างที่บอกว่านั่งร้องไห้ไม่ได้ต้องรีบลุกและรีบเดินต่อ”

 

ทางด้านน้องมิย่า เมื่อถามว่าให้กำลังใจพี่ยังไง เจ้าตัวเผยว่า “หนูก็จะช่วยปรอบใจพี่เขาบ้างค่ะ สมมติถ้าพี่เขาเครียด หนูก็จะชวนไปทำขนมดีกว่า แล้วพี่เขาก็เริ่มคิดแล้วว่าแบบหรือว่าจะไปเป็นหมอดี พี่เขาก็เริ่มคิดอะไรที่กว้างขึ้น”

 

 

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line